วัยทำงานป่วยโรคหัวใจสูง เหตุเครียดไม่ออกกำลังกาย

สพฉ.ห่วงคนวัยทำงานป่วยโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้น เหตุเครียด ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แนะผู้ประกอบการติดตั้งเครื่องเออีดี หรือสอนการช่วยฟื้นคืนชีพ เพื่อช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของวัยทำงาน


วัยทำงานป่วยโรคหัวใจสูง เหตุเครียดไม่ออกกำลังกาย thaihealth


นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า จากการจัดเก็บสถิติโรคฉุกเฉินที่เกิดขึ้นกับคนไทย โดยเฉพาะในช่วงวัยทำงาน อายุ 18-60 ปี ระหว่างวันที่ 1 พ.ค.2557-30 เม.ย.2558 พบว่ามีการแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 ในเรื่องอุบัติเหตุมากที่สุด รองลงมาคือมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคหัวใจ ส่วนสาเหตุที่คนวัยทำงานเป็นโรคหัวใจมากขึ้น เนื่องจากมีความเครียด ไม่มีเวลาพักผ่อน และใช้เวลาอยู่กับการทำงานค่อนข้างมาก และความเครียดยังกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น หัวใจบีบตัวและเต้นเร็วขึ้น หรืออาจส่งผลให้การเต้นของหัวใจผิดปกติ ทำให้เลือดมีความหนืดเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีไขมันในเลือดสูงและเกิดอุดตันหลอดเลือดได้ง่าย อีกทั้งอาจจะทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน หรือที่เรียกหัวใจวายได้ด้วย


นพ.อนุชากล่าวต่อว่า ผู้ที่เข้าข่ายเป็นโรคหัวใจสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้คือ จุกเสียดแน่นตรงกลางหน้าอก อึดอัด หายใจไม่สะดวกเหมือนมีอะไรมีบีบรัด หรือกดทับ อาจปวดร้าวไปที่คอ แขนซ้าย หรือกราม ร่วมกับอาการคลื่นไส้ เหงื่อออกท่วมตัว อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อออกกำลังกาย หรือทำงานหนักๆ แต่ถ้าหลอดเลือดหัวใจตีบมาก อาการแน่นหน้าอกอาจรุนแรง และอาการไม่ดีขึ้น แม้หยุดพักจนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือหัวใจอาจหยุดเต้นอย่างกะทันหันได้


จากการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจหรือหัวใจหยุดเต้นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจชนิดอัตโนมัติ หรือเออีดี ที่ขณะนี้ สพฉ.ได้รณรงค์ให้มีการติดตั้งในพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่แล้ว อาทิ สนามบิน สถานีขนส่ง ห้างสรรพสินค้า ตลาดน้ำ ฯลฯ


นพ.อนุชากล่าวอีกว่า ดังนั้นจากสถิติที่ผู้ป่วยวัยทำงานที่มีอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มมากขึ้น สถานที่ทำงานจึงน่าจะมีการพิจารณาติดตั้งเครื่องเออีดีด้วย หรืออย่างน้อยควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้เครื่องและช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้นเป็น เพื่อให้วัยทำงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้คนในวัยทำงานเองก็ต้องดูแลรักษาตัวเองให้ห่างไกลโรคด้วยเช่นกัน โดยต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญคือต้องไม่เครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ” นพ.อนุชากล่าว


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code