วันวาเลนไทน์…ต้นตอหนึ่งของ ‘ท้องไม่พร้อม’


สื่อมวลชนเคยนำสถิติวันคืนที่วัยรุ่นเสียตัวมากที่สุดคือวันเทศกาลต่างๆ อย่างวันลอยกระทงเป็นต้น และอีกวันหนึ่งที่มีสถิติตลอดกาลคือ “วันวาเลนไทน์” เป็นสถิติที่มีความเคลื่อนไหวไปในทางปริมาณสูงขึ้นตลอด ไม่มีสถิติว่าจะลดลงแต่อย่างใด


สถิติดังกล่าวที่เกิดขึ้นในสังคมไทยตัวบ่งชี้อย่างแรกและค่อนข้างจะสำคัญทีเดียวคือเยาวชนในสังคมเมืองปล่อยตัวปล่อยใจ ไม่รักนวลสงวนตัว ขาดสติไม่คำนึงแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ลืมความหวังดีของพ่อแม่ ลืมแม้อนาคตตัวเอง ลืมที่จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยไปเสียสิ้น


นำไปสู่การเกิดเหตุ “ท้องไม่พร้อม” อย่างที่รู้กันว่าวันวาเลนไทน์ไม่ใช่ภาพแห่งวัฒนธรรมประเพณีของเรา เป็นของฝรั่ง เป็นวันที่เกี่ยวโยงกับนักบุญในคริสต์ศาสนา ถ้าจะย้อนมองไปถึงจุดเกิดก็น่าจะเป็นความดีงามได้เป็นความดีงามเกี่ยวกับความรัก คือ รักพ่อรักแม่ รักแบบเมตตากรุณา แต่เมื่อขยายตัวไปสู่โลกกว้างเฉพาะอย่างยิ่งเข้ามาสู่สังคมไทยปัจจุบันไฉนความรักของวันวาเลนไทน์จึงกลายมาเป็นตัณหาราคะไปเสียได้


จนกลายเป็นค่านิยมของสังคมไทยไปในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเยาวชนตั้งแต่ระดับนมแตกพานไปจนถึงหนุ่มสาว ขนาดที่จบมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังพาตัวเองเข้าไปหมกมุ่นอยู่ในค่านิยมรักแบบกามราคะแล้วเสียสาวในวันวาเลนไทน์ก็เยอะ ความลุ่มหลงเข้าตาโอกาสที่จะขาดสติหลงเคลิ้มไปในวังวนแห่งตัณหาพาให้ลืมการรักนวลสงวนตัว รักศักดิ์ศรีความเป็นกุลสตรีไทยเสียตัวซะวันวาเลนไทน์นำไปสู่การท้องไม่พร้อมมากมายมหาศาล


จนมีใครไม่รู้เอาไปพูดประโยคคล้องจองวันตรุษจีนได้แต๊ะเอีย วันวาเลนไทน์ได้เสียพรหมจรรย์ก็เห็นจะจริง


เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การแพธ เปิดตัวโครงการรณรงค์สร้างความตระหนักเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นแม้จะเป็นหน่วยงานอื่นที่ไม่ได้เอ่ยชื่อก็เห็นจะต้องเข้ามาร่วมมือกัน อย่างเช่นตำรวจ


วันเทศกาลต่างๆ อย่างที่จะถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้าคือวันวาเลนไทน์ ตรงกับวันที่ 14กุมภาพันธ์ ถ้าพูดถึงการป้องกันเฉพาะกิจคงต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยตั้งข้อสังเกตหนุ่มสาวเข้าโรงแรม หรือตามสุมทุมพุ่มไม้ ที่มืดที่เปลี่ยวเพื่อปฏิบัติกามกิจด้วยเพราะกำลังตกอยู่ในอารมณ์ทางเพศจนลืมนึกถึงผลร้ายที่จะเกิดขึ้นตามมา



ในการป้องกันระยะยาวก็เห็นจะต้องนำโครงการของหน่วยงานที่กล่าวข้างต้นมาเป็นเครื่องมือดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยการให้ความรู้ด้านเพศศึกษาอบรมบ่มนิสัยให้ซึมซับสำนึกความถูกต้องดีงามตามประเพณีไทยคือการรักนวลสงวนตัวยิ่งการสร้างสำนึกให้เกิดสติขึ้นในทั้งสองฝ่ายคือทั้งชายและหญิงได้ก็ยิ่งเป็นการดีมากเลย


โดยเฉพาะการดึงองค์กรพ่อแม่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ให้ได้มีบทบาทดูแลลูกหลานลูกศิษย์ลูกหาร่วมไปกับ สสส.กระทรวงศึกษาฯ องค์การแพธ และกระทรวงทบวงกรมทุกแห่ง ดำเนินการไปพร้อมๆ กันจึงน่าจะช่วยซึมซับความรู้ความเข้าใจแก่เยาวชนได้ดีกว่านานๆ ถึงจะคิดทำโครงการสักคราว


เรื่องนี้ทาง สสส. ตระหนักถึงความสำคัญในอันที่จะช่วยป้องกันปัญหาท้องไม่พร้อมในทุกกระบวนการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่น่าจะเป็นต้นตอหนึ่งของการเสียสาวเสียพรหมจรรย์ของสาวรุ่นนำไปสู่ปัญหาต่างๆ มากมาย โดยการจัดกิจกรรมหนึ่งคือ “Story of love รักออกแบบได้” ในวันที่ 13 ก.พ. 54 ณ ลานดิจิทัล gate way สยาม ตั้งแต่เวลา 10.00น. เป็นต้นไป เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องความรัก และการป้องกันของเด็กและเยาวชน


กิจกรรมในงานจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ เวทีพูดคุย เพื่อให้ความรู้กับเยาวชนในเรื่องการป้องกันหากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ทักษะการปฏิเสธ หรือความเข้าใจที่ผิดในเรื่องยาคุมฉุกเฉิน เป็นต้น โดย ทูน หิรัญทรัพย์จะมาพูดคุยให้ข้อสังเกตและความรู้ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเมื่อพ่อรับบทสอนลูกสาว 3 ใบเถา


ในส่วนลานกิจกรรมจะยกนิทรรศการสุขภาวะทางเพศ แห่งแรกในเอเชียมาไว้ที่สยาม เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ตามอัธยาศัยพร้อมกับสลับด้วยการฉายสปอตรณรงค์ของ สสส. และหนังสั้นในโครงการ up to me อีกด้วย


กิจกรรมดังกล่าวเป็นกระบวนการระดมการป้องกันการเสียสาวของเยาวชนวัยรุ่นโดยไม่ถึงเวลาอันเหมาะสมดักหน้าวันวาเลนไทน์ต้นตอหนึ่งที่จะทำให้สาวรุ่นท้องแบบไม่พร้อม หนึ่งวันขององค์กรหลายองค์กรมี สสส. เป็นต้น ชี้ให้เห็นถึงหัวใจปรารถนาดีมีความมุ่งมั่นตั้งใจรักษาความดีงามตามวิถีวัฒนธรรมประเพณีไทยและความสุขให้เกิดขึ้นแก่ทุกครอบครัวที่มีลูกสาวในสังคม


 


ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code