วอนคนไทยสุขภาพดี ช่วยกันบริจาคโลหิต

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนคนไทยสุขภาพดีช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน ชี้สถานการณ์การระบาด COVID-19 Wave 2 ส่งผลกระทบผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างมาก ทำให้โลหิตขาดแคลนเข้าขั้นวิกฤติทั่วประเทศ
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 Wave 2 ขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่ง ที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดให้ผู้ป่วย รวมทั้งผู้ป่วยเด็ก โรคเลือด อาทิ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย ที่ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 340 แห่ง มีความต้องการเลือดสูงมาก แต่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ หน่วยงานยกเลิกการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด และสถาบันการศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตบริจาควันละ 700 – 900 ยูนิต เท่านั้น ลดลงมากถึงร้อยละ 50
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ปีพ.ศ.2512 มีการประกาศขาดเลือดบ่อยๆ แต่ครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ที่วิกฤติมากอีกครั้งหนึ่ง เพราะโรงพยาบาลใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ประกาศขาดเลือดพร้อมๆ กัน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงชีวิตได้
อีกทั้ง เพื่อให้งานบริการโลหิตของประเทศไทย เป็นไปอย่างเพียงพอและปลอดภัย ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้มีมาตรการและแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริจาคโลหิต ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ทั่วประเทศ 12 แห่ง และหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ทุกแห่ง ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ยังคงรักษามาตรการสร้างความมั่นใจให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจาก COVID-19 มีการควบคุม ดูแล รักษาความสะอาด อุปกรณ์ สถานที่ และสุขอนามัยของผู้มาบริจาคโลหิต และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
ในฐานะที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ทำหน้าที่ในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงสุด จากผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ และโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น มีความต้องการใช้ทุกวัน
ขอวอนคนไทยสุขภาพดี บริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน ถึงเวลาแล้วที่คนไทย ต้องช่วยกันรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย บริจาคโลหิตฝ่าวิกฤติ COVID-19 รอบ 2 ไปด้วยกัน ได้ที่
สถานที่รับบริจาคโลหิต (ส่วนกลาง)
• ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
• หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 6 แห่ง ได้แก่
– สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค)
– บ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง)
– เดอะมอลล์ บางแค
– เดอะมอลล์ บางกะปิ
– เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
– ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม
สถานที่รับบริจาคโลหิต (ส่วนภูมิภาค)
ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ได้แก่
• ภาคฯ จ.ลพบุรี
• ภาคฯ จ.ราชบุรี
• ภาคฯจ.ขอนแก่น
• ภาคฯจ.นครสวรรค์
• ภาคฯ จ.เชียงใหม่
• ภาคฯ จ.ภูเก็ต
• ภาคฯ จ.ชลบุรี
• ภาคฯ จ.นครราชสีมา
• ภาคฯ จ.อุบลราชธานี
• ภาคฯ จ.พิษณุโลก
• ภาคฯ จ.สงขลา
• ภาคฯ จ.นครศรีธรรมราช
โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต 6 แห่ง
• โรงพยาบาลตำรวจ
• โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
• โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
• โรงพยาบาลรามาธิบดี
• โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
• สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า
• โรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ
ผู้ที่สนใจบริจาคโลหิต
• ผู้บริจาคโลหิตต้องตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพและการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามความเป็นจริง
หากไม่แน่ใจควรงดการบริจาคโลหิตชั่วคราว เพื่อเว้นระยะเวลาการพบเชื้อ 4 สัปดาห์
• ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เดินทางมาบริจาคโลหิต

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนคนไทยสุขภาพดีช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน ชี้สถานการณ์การระบาด COVID-19 Wave 2 ส่งผลกระทบผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างมาก ทำให้โลหิตขาดแคลนเข้าขั้นวิกฤติทั่วประเทศ

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 Wave 2 ขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่ง ที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดให้ผู้ป่วย รวมทั้งผู้ป่วยเด็ก โรคเลือด อาทิ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย ที่ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 340 แห่ง มีความต้องการเลือดสูงมาก แต่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ หน่วยงานยกเลิกการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด และสถาบันการศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตบริจาควันละ 700 – 900 ยูนิต เท่านั้น ลดลงมากถึงร้อยละ 50

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ปีพ.ศ.2512 มีการประกาศขาดเลือดบ่อยๆ แต่ครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ที่วิกฤติมากอีกครั้งหนึ่ง เพราะโรงพยาบาลใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ประกาศขาดเลือดพร้อมๆ กัน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงชีวิตได้

อีกทั้ง เพื่อให้งานบริการโลหิตของประเทศไทย เป็นไปอย่างเพียงพอและปลอดภัย ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้มีมาตรการและแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริจาคโลหิต ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ทั่วประเทศ 12 แห่ง และหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ทุกแห่ง ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ยังคงรักษามาตรการสร้างความมั่นใจให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจาก COVID-19 มีการควบคุม ดูแล รักษาความสะอาด อุปกรณ์ สถานที่ และสุขอนามัยของผู้มาบริจาคโลหิต และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ

ในฐานะที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ทำหน้าที่ในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงสุด จากผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ และโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น มีความต้องการใช้ทุกวัน

ขอวอนคนไทยสุขภาพดี บริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน ถึงเวลาแล้วที่คนไทย ต้องช่วยกันรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย บริจาคโลหิตฝ่าวิกฤติ COVID-19 รอบ 2 ไปด้วยกัน ได้ที่

สถานที่รับบริจาคโลหิต (ส่วนกลาง)

• ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

• หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 6 แห่ง ได้แก่

– สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค)

– บ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง)

– เดอะมอลล์ บางแค

– เดอะมอลล์ บางกะปิ

– เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

– ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม

สถานที่รับบริจาคโลหิต (ส่วนภูมิภาค)

ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ได้แก่

• ภาคฯ จ.ลพบุรี

• ภาคฯ จ.ราชบุรี

• ภาคฯจ.ขอนแก่น

• ภาคฯจ.นครสวรรค์

• ภาคฯ จ.เชียงใหม่

• ภาคฯ จ.ภูเก็ต

• ภาคฯ จ.ชลบุรี

• ภาคฯ จ.นครราชสีมา

• ภาคฯ จ.อุบลราชธานี

• ภาคฯ จ.พิษณุโลก

• ภาคฯ จ.สงขลา

• ภาคฯ จ.นครศรีธรรมราช

โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต 6 แห่ง

• โรงพยาบาลตำรวจ

• โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช

• โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า

• โรงพยาบาลรามาธิบดี

• โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

• สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า

หรือ

• โรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ

ผู้ที่สนใจบริจาคโลหิต

• ผู้บริจาคโลหิตต้องตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพและการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามความเป็นจริง

หากไม่แน่ใจควรงดการบริจาคโลหิตชั่วคราว เพื่อเว้นระยะเวลาการพบเชื้อ 4 สัปดาห์

• ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เดินทางมาบริจาคโลหิต

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครผู้บริจาคโลหิต

คลิก https://bit.ly/2KRQ0a1

ดาวน์โหลดแบบคัดกรองตนเองเพื่อประเมินความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19

คลิก https://bit.ly/2WdB1ws

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มยินยอมผู้ของปกครองให้บริจาคโลหิต (สำหรับผู้ที่อายุ 17 ปีบริบูรณ์)

คลิก https://bit.ly/3f7tE2h

วันเวลาเปิดรับบริจาคโลหิต ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์

คลิก https://bit.ly/341Xika

ตารางหน่วยเคลื่อนที่บริจาคโลหิต

คลิก https://bit.ly/2WXPsGV

คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต

คลิก https://bit.ly/2waeyr2

ที่มา : ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

Shares:
QR Code :
QR Code