วอนคนไทยสมัครใจตรวจเลือด เนื่องในวันเอดส์โลก
เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี เรียกร้องคนไทย สมัครใจตรวจเลือด รู้เร็ว รักษาทัน อาการไม่รุนแรง เนื่องในวันเอดส์โลก…
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย และมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ นำโดยนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิฯ และนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายฯ ราว 10 คน เดินทางมายังบริเวณฝั่งตรงข้ามเสาธงหน้าตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรณรงค์กระตุ้นสังคมไทย “ถึงเวลาที่ทุกคน..จะรู้ผลเลือดเอชไอวีของตัวเอง : Time To Test HIV” เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2554 โดย นายนิมิตร์ กล่าวว่า วาระเอดส์ปีนี้ สธ.เน้นการลดการติดเชื้อ เพื่อลดอัตราผู้ป่วย และอัตราการตาย ซึ่งทางด้านภาคประชาชนก็จะมุ่งเน้นรณรงค์เช่นกัน แต่จะพุ่งเป้าไปที่ให้ประชาชนใส่ใจตัวเองมากขึ้น โดยจะเชิญชวนให้หันมาตรวจเลือดเพื่อให้รู้เร็ว รู้ทันต่อการรักษากรณีติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักคิดว่า ตนเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ไม่มีทางติด ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายก็ย่อมเสี่ยงทั้งสิ้น คือ ไม่มั่นใจว่าคู่ของตนมีคนอื่นหรือไม่ หรือไม่สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากมีความเสี่ยงเหล่านี้ควรตรวจเลือดเพื่อป้องกันดีที่สุด เพราะหากพบว่าติดเชื้อจะสามารถรักษาได้ทันท่วงที
“หากเราทราบว่าติดเชื้อเร็ว การรักษาก็จะเร็วขึ้น ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมักเกิดจากรู้ช้า ได้รับยาต้านไวรัสไม่ทัน แต่หากทราบเร็ว และได้รับยาต้านไวรัสเร็ว โอกาสมีชีวิตย่อมเทียบเท่าคนปกติ เรียกว่าเสียชีวิตจากเอดส์เป็นศูนย์ เนื่องจากภาวะโรคฉวยโอกาสก็จะควบคุม และรักษาได้ทันด้วย เห็นได้ว่าก่อนหน้าที่จะมีการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีผู้เสียชีวิตในอัตราที่สูงถึงปีละ 7,000 ราย แต่หลังจากปี 2546 ที่มีการให้ยาต้านไวรัสฯ กลับพบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตน้อยลงเรื่อยๆ โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีการควบคุมอัตราการเสียชีวิตได้ดีมาก แต่แม้จะดีแค่ไหน ปัจจุบันยังพบผู้เสียชีวิตปีละ 1,000 ราย ซึ่งก็ยังมาก และต้องลดลงเรื่อยๆ ให้มากที่สุด” นายนิมิตร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันผู้ติดเชื้อได้รับยาต้านไวรัสฯ ในระบบมากน้อยแค่ไหน นายนิมิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีคนติดเชื้อทั้งประเทศประมาณ 500,000 คน โดยอยู่ในระบบสวัสดิการด้านสุขภาพทุกระบบราว 200,000 คน มีการรับยาต้านไวรัสฯประมาณร้อยละ 40
ด้านนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,853 ราย หรือวันละประมาณ 30 ราย มีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ปีละ 1,000 ราย ทั้งๆ ที่ระบบสวัสดิการด้านสุขภาพทุกระบบของประเทศ มีความพร้อม สามารถให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดส์ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบสวัสดิการประกันสังคม และระบบสวัสดิการข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ แต่ปัญหาคือ คนไม่กล้าเข้าไปตรวจ หรือบางคนก็คิดว่าตัวเองไม่เสี่ยง ซึ่งตรงนี้อันตรายมาก จึงขอย้ำว่า เอดส์ รู้เร็ว รักษาได้ จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนตื่นตัวในเรื่องการรู้ผลการติดเชื้อของตัวเอง และยิ่งมีความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันให้เข้ามารับบริการตรวจเลือดฟรี ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพระบบใดๆ ก็ตาม ขอรับบริการให้คำปรึกษา และการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีด้วยความสมัครใจได้ปีละ 2 ครั้ง สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนที่เข้าร่วมระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ใดก็ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
“สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่เป็นการบังคับ ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการบางแห่ง ก็ยังมีการบังคับลูกจ้างตรวจเลือด โดยเป็นเงื่อนไขการสมัครงาน ตรงนี้ถือไม่ถูกต้อง เพราะทั้งละเมิดสิทธิ และปิดกั้นโอกาสเกินไป เพราะจริงๆ แล้วคนทุกคนทำงานได้หมด ซึ่งความเป็นจริงทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเอ็นจีโอ แพทย์ พยาบาล คนรวย คนจน ก็ย่อมติดเชื้อได้เช่นกัน แต่พวกเขาก็ทำงานได้ไม่แพ้ทุกคน ปัญหาตรงนี้อยู่ที่การยอมรับ เพราะอย่าลืมว่าเอชไอวีไม่ได้ติดกันง่ายๆ หากไม่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือไม่ได้ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ก็ไม่ต้องกังวล” นายอภิวัฒน์ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
