วงเสวนาเสนอ
เมื่อเร็วๆ นี้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ, มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว, สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ,สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, เครือข่ายคนไทยไร้พุง,โครงการโภชนาการสมวัย, แผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพและเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน รวม 8 องค์กร ร่วมกันจัดงานเสวนาวิชาการ “รวมพลังครอบครัว เปิดไฟเขียว ฉลากขนม” ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เพื่อถ่ายทอดข้อมูลทางวิชาการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับฉลากขนม อันจะนำมาซึ่งความรู้ความเข้าใจในการบริโภคเพื่อสุขภาพ พร้อมนำเสนอฉลากขนมแบบใหม่ ในรูปแบบสัญญาณไฟจราจรที่ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่าย
รศ.พญ.ลัดดา เหมาะสุวรรณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า โรคอ้วนกำลังเป็นภัยคุกคามคนไทยจากผลการสำรวจสุขภาพของประชาชนไทยครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2551-2552 พบว่า เด็กไทยอายุ 1-14 ปีมีถึง 5% ที่มีน้ำหนักเกิน และอีก 5% อยู่ในภาวะอ้วน และมีเด็กจำนวนมากที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ ที่น่าเป็นห่วงก็คือ มีเด็ก ในช่วงอายุดังกล่าวถึง 28% กินขนมกรุบกรอบที่มีไขมันสูงทุกวันหรือบ่อยกว่า ซึ่งเป็นปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาว
ด้าน รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การอ่านข้อมูลฉลากโภชนาการหรือฉลากอาหารแสดงส่วนประกอบบนบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างพฤติกรรมการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ แต่จากการสำรวจพบว่า มีผู้บริโภค ในเขตกรุงเทพฯ น้อยรายที่ให้ความสำคัญกับการอ่านข้อมูลบนฉลากโภชนาการ โดยส่วนใหญ่ 91% อ่านวันหมดอายุ รองลงมาอ่านส่วนประกอบ วันที่ผลิต ฉลากโภชนาการ และเครื่องหมาย อย. ตามลำดับ ในจำนวนผู้อ่านฉลากโภชนาการมีประมาณ 40% ที่ไม่เข้าใจความหมาย ส่วนในจังหวัดอื่นๆ ก็พบว่า มีเพียง 10% เท่านั้นที่ใช้ข้อมูลโภชนาการในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร สอดคล้องกับการสำรวจผู้ปกครองนักเรียนเมื่อปี 2549 ที่พบว่า 50%ของผู้บริโภคต้องการสัญลักษณ์ที่จะทำให้เข้าใจข้อมูลโภชนาการมากขึ้นจึงควรทำฉลากที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น
ในเรื่องนี้ทางสถาบันโภชนาการได้วิจัยเกี่ยวกับสัญลักษณ์โภชนาการให้อ่านได้ง่ายและใช้ประโยชน์ได้ โดยได้ทบทวนเปรียบเทียบสัญลักษณ์โภชนาการในต่างประเทศ จนได้ข้อสรุปที่แสดงให้เห็นว่า รูปแบบสัญลักษณ์ไฟจราจร “เขียว-เหลืองแดง” ของ food standards agency (fsa) สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่าแบบ guideline daily amounts (gda) ในการคัดเลือกอาหาร เพื่อสุขภาพ
ทางด้าน นางสาวเกณิกา พงษ์วิรัช หัวหน้าโครงการเครือข่ายเฝ้าระวังภัยรอบโรงเรียน กล่าวว่า พ่อแม่ไม่สามารถดูแลลูกได้ตลอดเวลารวมทั้งการแนะนำลูกในการเลือกซื้อขนมต่างๆ ก็ไม่สามารถอธิบายฉลากแบบเดิมที่เป็นตัวเลขเพราะดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่หากมีการใช้ฉลากแบบใหม่ที่มีเกณฑ์กำหนดที่แน่นอน ก็น่าจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น สามารถรู้ถึงปริมาณสารอาหารที่มีในหนึ่งหน่วยบริโภคจะช่วยให้ผู้ปกครองตัดสินใจเลือกซื้อขนมสำหรับบุตรหลานได้ง่ายขึ้นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก ผู้เป็นพ่อเป็นแม่เองก็สบายใจ และจะส่งผลให้ผู้ผลิตหันมาใส่ใจผลิตของที่มีคุณภาพ ขณะนี้เครือข่ายครอบครัวผู้ปกครองก็ได้รวบรวมรายชื่อยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้รัฐบาลช่วยผลักดันการติดสัญลักษณ์สัญญาณไฟเขียว-เหลือง-แดง บนฉลากขนมและอาหาร ซึ่งจะได้มีการติดตามผลความคืบหน้าในเรื่องนี้ต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด