‘วงล้อปฏิทินปลูกผัก’ งานศิลปะเพื่อจูงใจเด็ก

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า โดย สมใจ นามสุดตา /พลรวัฒน์ ดวงเข็ม


ภาพประกอบจากเว็บไซต์แนวหน้า


'วงล้อปฏิทินปลูกผัก' งานศิลปะเพื่อจูงใจเด็ก thaihealth


“เด็กไทยไม่ชอบกินผัก” คือคำพูดที่คุ้นหูและถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทยที่จะต้องหาทางให้เด็กๆ หันมาสนใจ และกินผัก เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและมีพัฒนาการที่เหมาะสมแก่วัย


วันนี้ผู้เขียนขอนำเสนออีกหนึ่งรูปแบบของการใช้งานศิลปะเพื่อจูงใจเด็กๆ ให้หันมากินผัก ซึ่งเริ่มจากการส่งเสริมให้เด็กปลูกผักทำอาหารกลางวัน โดยมี สสส. สนับสนุนงบประมาณจัดกิจกรรม


โรงเรียนบ้านวังแท่น ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย เลือกใช้งานศิลปะให้เป็นมากกว่างานศิลปะไว้ชื่นชมความสวยงาม ครูที่นี่นำเอางานศิลปะมาใช้ในการเรียนรู้การปลูกผัก และจูงใจให้เด็กหันมาใส่ใจ สนใจ กินผักเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะไม่สามารถทำให้เด็กหันมากินผักได้ทั้งหมด 100% แต่งานศิลปะที่เด็กๆ ได้ร่วมวาดขึ้นมานั้น เกิดจากการลงมือปฏิบัติจริง ได้เห็นต้นผัก ได้ลองปลูกผัก ได้จำแนกประเภทของผัก และถ่ายทอดออกมาผ่านภาพวาดที่เกิดจากความเข้าใจของเด็กๆ และ จากต้นผักของเด็กๆ ทำให้พวกเขามีความภาคภูมิใจ และเต็มใจที่จะกินผักที่ตนเองปลูก


นายยนต์เทียร ทาบุครูศิลปะโรงเรียนบ้านวังแท่น กล่าวว่า ปฏิทินปลูกผักไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ แต่เรานำมาทำใหม่ในรูปแบบของเราเอง โดยให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมในการใส่ข้อมูล รายละเอียดของผัก ระบายสีผักสีตัวหนังสือ ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนปลูกผักไว้ทำอาหารกลางวันทั้งปีอยู่แล้ว จึงถือว่าครูและนักเรียนก็จะเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเด็กๆ จะได้เรียนรู้ด้วยว่า จริงๆ แล้วผักแต่ละชนิดไม่ได้สามารถปลูกได้ทั้งปี ดิน อากาศจะดีขนาดไหนถ้าไม่ใช่ช่วงของพืชผักชนิดนี้ก็จะได้ผลไม่สมบูรณ์


'วงล้อปฏิทินปลูกผัก' งานศิลปะเพื่อจูงใจเด็ก thaihealth


การเรียนรู้ของเด็กจากวงล้อปฏิทินปลูกผักนี้ช่วยตอบโจทย์เรื่องศักยภาพที่แตกต่างของเด็ก เพราะเด็กในโรงเรียนทุกคนไม่ใช่จะอ่านออกเขียนได้ทั้งหมด จะมีเด็กบางคนที่มีปัญหาด้านการเรียนรู้ ซึ่งศิลปะสามารถตอบโจทย์ได้ หากใช้แค่ตัวหนังสืออธิบายสรรพคุณของผัก เด็กบางส่วนไม่สามารถรับรู้เรื่องราวได้ แต่การใช้ศิลปะเข้าไปส่งเสริมการเรียนรู้ ที่ผ่านมาพบว่าเด็กที่วาดรูปผักได้สวยหรือเก่ง จะไมเก่งด้านวิชาการ พองานศิลปะของเขานำมาโชว์ต่อหน้าเพื่อนๆ เด็กทุกคนจะมีตัวตนเท่ากัน และกระตือรือร้นอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ


“ศิลปะช่วยเชื่อมโยงถึงเรื่องของการปฏิบัติจริงในแปลงปลูกผัก งานศิลปะเป็นตัวเชื่อมโยงให้เด็กๆ เกิดความภาคภูมิใจ แต่สิ่งที่สามารถทำให้เด็กในโรงเรียนกินผักมากขึ้น คือ การที่เขาได้ลงมือทำจริงๆ ปลูก ดูแลจริงๆ เขาได้รู้ต้นทางว่าผักเกิดขึ้นมาได้อย่างไรเกิดความภูมิใจ เขาไม่ได้กินผักเพียงอย่างเดียวแต่เขากินความภูมิใจ ได้ตัดเอง นำไปล้างเอง และถูกถ่ายทอดผ่านงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ”


นางวนาไพร ยอดพุทธผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังแท่น กล่าวว่า ศิลปะเป็นสิ่งที่เข้าถึงเด็กได้ดี เพราะทุกคนมีความเป็นศิลปินในตัวอยู่แล้วเราจะดึงด้านไหนออกมา และศิลปะสามารถสร้างแรงจูงใจให้กับเด็กได้เกือบทุกคน ซึ่งเด็กบางคนที่มีความพร่องด้านการเรียนรู้วิชาทักษะอื่นๆ เราก็สามารถใช้วิชาศิลปะส่งเสริมให้เขาเรียนรู้ตรงนี้ได้ เขามีความสามารถด้านศิลปะเราก็ส่งเสริมด้านศิลปะให้เขา ซ่อมเสริมให้เขาได้


ศิลปะคือความเป็นสากล คนทุกคนสามารถเข้าถึงงานศิลปะ และมีศิลปะในการรับรู้ ใช้ชีวิต เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดี ซึ่งหากจะพูดไปการเรียนรู้ของเด็กๆ ในวัยต่างๆ ก็มีความแตกต่างกัน สำหรับเด็กที่ไม่มีความถนัดเรื่องวิชาการ ผู้เขียนคิดว่าการใช้งานศิลปะมาให้เขาได้เรียนรู้ ถ่ายทอด และสร้างแรงจูงใจสำหรับเด็กได้ ซึ่งมีผลต่อความคิดของเด็ก เช่นเดียวกับการนำงานศิลปะมาสร้างแรงจูงใจให้เด็กหันมากินผัก เรียนรู้เรื่องผัก และภูมิใจในผลงานของตัวเอง คงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่จะสามารถจูงใจให้เด็กกินผักได้ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม

Shares:
QR Code :
QR Code