ล้อมรั้วชุมชนสานพลังต้านยาเสพติด

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ล้อมรั้วชุมชนสานพลังต้านยาเสพติด thaihealth


แฟ้มภาพ


ปัญหายาเสพติดไม่อาจแก้ได้ด้วยการปราบปรามเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันด้วยการเสริมสร้างให้สังคมได้เรียนรู้ และมีส่วนร่วม ต่อปัญหาและการป้องกันอย่างจริงจังด้วยจึงจะทำให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน


เมื่อไม่นานมานี้ คุณพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) นำโดย ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปยัง ชุมชนตำบลคอรุมและตำบลหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์ ได้พบการรวมพลังของคนในชุมชนต่อการแก้ปัญหายาเสพติดซึ่งถือเป็นบทเรียนที่น่าสนใจยิ่ง ที่สะท้อนให้เห็นว่า คำตอบของการสร้างชุมชนสุขภาวะที่แท้จริงนั้น คนในชุมชนคือปัจจัยหลัก


คุณพีระศักดิ์ พอจิต กล่าวให้ทุกคนทราบว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดและถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะในส่วนที่ ห่วงใยมากที่สุดคือกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเข้าถึงได้ง่าย ด้วยเป็นวัยอยากรู้อยากลอง ดังนั้นปัญหายาเสพติด จึงเป็นเรื่องที่ต้องปรับวิธีการต่อสู้ไปเรื่อยๆ จึงอยากให้กำลังใจ สสส.ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการแก้ปัญหาร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รวมไปถึงภาคีเครือข่ายในจังหวัดอุตรดิตถ์ทุกคน โดย สนช.จะช่วยแก้ไขปรับปรุงข้อกฎหมายที่ยังติดขัดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ล้อมรั้วชุมชนสานพลังต้านยาเสพติด thaihealthดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.ได้กล่าวเสริมด้วยว่า การสร้าง “ล้อมรั้วชุมชน” เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่นำมาใช้ขับเคลื่อนปัญหายาเสพติด ตามหลักการ “3 สร้าง” คือ 1.สร้างระบบ ในการจัดการสุขภาวะชุมชน 2.สร้างความรู้ ชุดข้อมูลและคู่มือต่างๆ และ 3.สร้างคน คือการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในพื้นที่ ซึ่งใน จ.อุตรดิตถ์ มีการขยายผลการดำเนินงานของสสส. ถึง 39 แห่ง จาก อปท.ทั้งหมด 79 แห่ง โดย อบต.หาดสองแคว และ อบต.คอรุม ถือเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นๆ ได้เรียนรู้ ในการเป็น “ชุมชนสุขภาวะ” อาทิ เปิดเวทีประชาคมที่ให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม, การจัดทำแผนของชุมชน เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เป็นต้น


คุณผจญ พูลด้วง นายกฯ อบต.คอรุม ให้ความเห็นถึงการเป็นชุมชนสุขภาวะ ว่า กว่าจะเป็นเช่นทุกวันนี้ ต้องพบกับอุปสรรคไม่น้อย ต้องสู้กับปัญหาที่สะสมในพื้นที่มายาวนานโดยเฉพาะ ปัญหายาเสพติดที่เคยมีการแพร่ระบาดในพื้นที่อย่างรุนแรง เป็นปัญหาที่แก้ยาก จึงหันมาให้ความสำคัญกับการป้องกัน ด้วยการเดินหน้าหาแนวร่วมในชุมชน พร้อมทั้งทำประชาคมกับคนในพื้นที่เพื่อสร้างกติกาใหม่ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 4 สร้าง คือ1.สร้างคน 2.สร้างงาน 3.สร้างโอกาส และ4.สร้างสังคมอุดมปัญญา ผ่านการขับเคลื่อนฐานคิดในการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันเมื่อทุกฝ่ายยอมรับโดยไม่มีข้อข้องใจกับกติกาใหม่ที่จะทำร่วมกันให้ชุมชนปลอดยาเสพติด เราถึงกล้าเดินหน้า ใครติดยาก็จะเข้าไปพูดคุยด้วยดีๆ พร้อมช่วยเหลือบำบัดจนเลิกยาได้ และการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนจากการหนุนเสริมของ สสส. ถือเป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ เช่น ดีเจวิทยุชุมชน กิจกรรมด้านดนตรีและกีฬา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นภูมิคุ้มกันในการป้องกันปัญหายาเสพติดของเยาวชน ในพื้นที่ตำบลคอรุมได้อย่างครอบคลุม


เช่นเดียวกับ คุณพงษ์เทพ ชัยอ่อน นายก อบต.หาดสองแคว เล่าว่า การหนุนเสริมให้เด็กและเยาวชนร่วมพัฒนาล้อมรั้วชุมชนสานพลังต้านยาเสพติด thaihealthชุมชน เป็นอีกแนวทางในการช่วยแก้ปัญหายาเสพติดอย่างได้ผล โดยเราจะเริ่มจาก การมองตั้งแต่เริ่มต้นว่า เกิดปัญหาอะไรขึ้นในชุมชนของเรา ซึ่งที่ผ่านมา สสส.ได้เข้ามาสนับสนุนให้เป็นตำบลสุขภาวะพัฒนาฐานการเรียนรู้ของเด็กเยาวชน มีการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชน ให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมพัฒนาชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมอยู่แล้วที่ทำให้เด็กหาดสองแควมีความคิดที่เป็นระบบเมื่อเกิดเป็นปัญหาทุกคนจึงร่วมใจกันอย่างเต็มที่


สุดท้าย คุณดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผอ.สำนัก 3 สนับสนุนการสร้างสุขภาวะในพื้นที่และชุมชน สสส. กล่าวเสริมว่า ปัจจัยความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งคือแรงสนับสนุนจากภาควิชาการที่เข้ามาให้ความรู้ และเปิดมุมมองใหม่ๆ สนับสนุนการสร้างสุขภาวะในพื้นที่และชุมชน สะท้อนให้เกิดเป็นผลงานว่า การทำงานในพื้นที่จะไม่มุ่งทำเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เรามาทำรั้วชุมชน คือ ช่วยชุมชนวิเคราะห์ปัญหากันทั้งระบบ เพราะการถอดบทเรียนชุมชนเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะรู้ว่าอะไรเป็นจุดเด่นจุดด้อย และจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เมื่อทำต่อเนื่องจะนำไปสู่การพัฒนาได้ในที่สุด


นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จในการทำกิจกรรมที่สามารถสัมผัสได้ด้วยผลงานอันเป็นที่ยอมรับต่อภาคสังคมอย่างไม่มีข้อกังขา

Shares:
QR Code :
QR Code