ล่าแสนชื่อหนุนครูสอน’เพศศึกษา’

ระบุครูหวั่น เสียงสะท้อนผู้ปกครองรับไม่ได้

 ล่าแสนชื่อหนุนครูสอน’เพศศึกษา’

          กรุงเทพฯ องค์กรเอกชนระดมพลังผู้ปกครองหนุนสอนเพศศึกษา ระบุครูสอนด้านนี้น้อยเพราะกังวลใจว่าผู้ปกครองรับไม่ได้  นพ.พันธ์ศักดิ์แนะครูเจอคำถามหยาบคายให้ตั้งสติอย่ามองเด็กผิด  ด้านอาจารย์เพศศึกษาชื่อดังเผยลูกศิษย์จดสถิติช่วยตัวแล้วมาแล้ว 795 ครั้ง อีกคนเคยใช้กางเกงชั้นในแทนถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์

 

          เมื่อวันที่  13 ตุลาคม ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ (path)  ร่วมกับภาคีเพศศึกษา 16  องค์กรจัดประชุมวิชาการ “เพศศึกษาเพื่อเยาวชน”  ครั้งที่  4  ภายใต้แนวคิดทบทวน  ทายท้า  ศรัทธา กล้าเลือก โดย น.ส.ภาวนา เหวียนระวี  ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ  องค์การแพธ  กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้มีการระดมพลังพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้ใหญ่ที่เข้าใจวัยรุ่น ให้ร่วมกันลงชื่อสนับสนุนการสอนเพศศึกษาอย่างเป็นระบบในสถานศึกษา โดยตั้งเป้าหมายไว้หนึ่งแสนรายชื่อเพื่อนำเสนอต่อสังคมและกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีการผลักดันการจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 

          น.ส.ภาวนากล่าวว่า  ตลอดเวลา  5  ปีที่ผ่านมา  องค์การแพธได้ดำเนินโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจในการพัฒนาแผนการเรียนรู้เพศศึกษาที่สอดคล้องกับเยาวชนในแต่ละช่วงวัย  เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเรื่องเอดส์  เพศวิถี และการใช้ชีวิตทางเพศอย่างรับผิดชอบ โดยสามารถเข้าถึงสถานศึกษาได้รวมทั้งสิ้น  759  แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมสถานศึกษาระดับต่างๆ   นอกจากนี้จากการประเมินผลเชิงคุณภาพได้พบสาเหตุที่ทำให้ครูส่วนหนึ่งสอนเพศศึกษาจากเดิมน้อยลงคือ  ครูไม่กล้าสอนเพราะกังวลใจว่าผู้ปกครองจะไม่เห็นด้วย ทั้งที่ครูหรือผู้บริหารก็ยังไม่เคยได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ปกครอง

 

          ทั้งนี้ มีการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญเพศศึกษาหัวข้อ  “พลิกตำรามหายุทธ์  เปิดจุดยุทธศาสตร์การสอนเพศศึกษา”  โดยนายแพทย์พันธ์ศักดิ์  ศุกระฤกษ์  สูติ-นรีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเพศศึกษาของเมืองไทย  บรรยายว่า สมัยก่อนการพูดเรื่องเพศศึกษาจะเป็นที่บาดใจคนฟัง เพราะคิดว่าจะมาสอนเรื่องเพศสัมพันธ์  แต่ในปัจจุบันเรื่องเพศศึกษาถูกมองในแง่บวกและหลายมิติมากขึ้น  สำหรับการสอนเพศศึกษาให้กับเยาวชนอย่ามองให้เป็นเรื่องเครียด โดยต้องเปิดรับฟังมุมมองวัยรุ่นให้มากที่สุดและใช้ทักษะในการสื่อสารอย่างถูกต้อง

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์

 

 

update 14-10-51

 

Shares:
QR Code :
QR Code