ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข

แฟ้มภาพ

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วมป่วยโรคฉี่หนูตาแดงให้รีบล้างทำความสะอาดหลังจากลุยน้ำ ย่ำโคลน หากมีอาการปวดศีรษะ มีไข้สูงทันทีทันใด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะที่น่องและโคนขา ให้รีบพบแพทย์

นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังใน 10 จังหวัดคือ ลพบุรีสิงห์บุรีอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ชัยนาท ตาก พิจิตร กาฬสินธุ์ และขอนแก่น สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 65 แห่ง เปิดบริการได้ตามปกติ 54 แห่ง เปิดให้บริการจุดอื่น 11 แห่ง ที่พระนครศรีอยุธยา 6 แห่งคือ รพ.สต.บางหัก รพ.สต.วัดตะกู รพ.สต.บางหลวงโดด รพ.สต.วัดยม รพ.สต.แคออก รพ.สต.แคตกและจังหวัดสิงห์บุรี 5 แห่งคือ รพ.สต.ชีน้ำร้าย 1 รพ.สต.ชีน้ำร้าย 2 รพ.สต.ทับยา รพ.สต.น้ำตาล และรพ.สต.อินทร์บุรีที่ผ่านมาทีมแพทย์ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 102 ทีม ผู้รับบริการรวม 7,605 ราย  ได้แจกยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย 135,000 ชุด ยาทาน้ำกัดเท้า 42,400 หลอดยาตำราหลวง 4,000 ชุด ยาทากันยุง 1,000 ชิ้น ยาสามัญประจำบ้าน 7,400 ชุด

นายแพทย์เจษฎากล่าวต่อว่าได้กำชับให้เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคฉี่หนู จากเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่ในแอ่งน้ำขังหรือตามพื้นดินโคลน เข้าทางบาดแผล รอยขีดข่วน หรือผิวหนังที่ผ่านการแช่น้ำเป็นเวลานาน รวมทั้งจากอาหาร-น้ำดื่มที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน  ข้อมูลในปีนี้ตั้งแต่มกราคม – 16 ตุลาคม พบผู้ป่วยแล้ว 2,425 ราย เสียชีวิต 47 ราย จึงขอให้รีบล้างทำความสะอาดหลังลุยน้ำย่ำโคลนและเช็ดให้แห้งทุกครั้ง แต่หากมีอาการปวดศีรษะ มีไข้สูงทันทีทันใด ตาแดง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะที่น่องและโคนขา  ให้รีบพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้จนมีอาการรุนแรงอาจเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ ในปีนี้พบผู้ป่วยตาแดงแล้ว 89,155 ราย และในช่วงน้ำท่วมมักพบโรคตาแดงเพิ่มขึ้น จากการลงเล่นน้ำที่ไม่สะอาดหรือน้ำสกปรกเข้าตา จึงขอให้ประชาชนป้องกันตนเอง โดยล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ อย่าให้แมลงหวี่หรือแมลงวันตอมตาหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของเครื่องใช้ หากป่วยไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง ให้ไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที