ละครไทยจัดเรตติ้งเพี้ยน “น.13+” ไฟเขียวให้เด็กดูได้

แนะเลื่อนเวลาฉายหลัง 21.30 น.

 

 

อึ้ง! ละครไทยจัดเรตติ้งเพี้ยน ขึ้น น.13+ไฟเขียวให้เด็กดูได้ แต่เนื้อหาทั้งรุนแรง-ชิงรักหักสวาท-อาฆาตแค้น นักวิชาการหวั่นเด็กไทยตกเป็นทาสละคร เลียนแบบพฤติกรรม ฆ่าตัวตาย-คบชู้แนะเลื่อนเวลาฉายหลัง 21.30 น.

 

ละครไทยจัดเรตติ้งเพี้ยน “น.13+” ไฟเขียวให้เด็กดูได้

            เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ที่สภาคริสตจักรในประเทศไทย เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ ร่วมกับ เครือข่ายสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก(มพด.) แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน จัดเวทีเสวนา เรื่อง การจัดระดับความเหมาะสมของสื่อโทรทัศน์ ตอน เนื้อหาละคร กับช่วงเวลาการออกอากาศ

 ละครไทยจัดเรตติ้งเพี้ยน “น.13+” ไฟเขียวให้เด็กดูได้

            นายอิทธิพล ปรีติประสงค์ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล ในฐานะนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญระบบเรตติ้ง กล่าวว่า ช่วงเวลาการออกอากาศรายการทางโทรทัศน์ของไทย ได้รับแนวคิดจากต่างประเทศ  เพื่อดูแลคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการชมโทรทัศน์ โดยเฉพาะ แนวคิด น. 13+ คือ เหมาะกับผู้มีอายุ 13 ปีขึ้นไป และ น.18+ คือ เหมาะกับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ปรากฏว่า ไทยกำหนดเวลาการออกอากาศรายการไม่ตรงตามเรตติ้งที่กำหนด โดยเฉพาะละครที่เรตติ้ง น. 13+  ออกอากาศในช่วงเวลา 20.30 น. นั้น ส่วนใหญ่เนื้อหาจะมีลักษณะที่คล้ายกัน คือ ชิงรักหักสวาท แก่งแย่งคนรัก ปมขัดแย้งเรื่องมรดก พินัยกรรม อาฆาตมาดร้าย ใช้คำหยาบ กิริยาวาจาที่ไม่เหมาะสม แต่กลับฉายช่วงที่เด็กและเยาวชนสามารถรับชมได้ จึงน่าเป็นห่วงว่าเด็กอาจมีพฤติกรรมเลียนแบบ หรือซึมซับกิริยาที่ไม่เหมาะสม เช่น ละครเรื่องไทรโศก ที่ถ่ายทอดปมขัดแย้ง ความรุนแรง  ความอาฆาตมานานตั้งแต่ต้นเรื่อง จนทำให้เด็กที่ชมเกิดการซึมซับสิ่งเหล่านี้ไป

 ละครไทยจัดเรตติ้งเพี้ยน “น.13+” ไฟเขียวให้เด็กดูได้

            นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า  ขอเสนอให้มีการจัดระเบียบของละครไทย ดังนี้ 1. ผู้จัดละครโทรทัศน์ จัดทำละครให้ตรงตามกฎของเรตติ้งที่กำหนดไว้  2. มาตรการการกำกับดูแลกันเองของสมาคมประกอบวิชาชีพสื่อ ต้องมีความเข้มงวดและรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น 3. หน่วยงานภาครัฐ เร่งผลักดันกฎหมายกำหนดเวลาผู้ชมแต่ละประเภท รวมทั้งเร่งรัดสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งจะส่งผลต่อการผลิตละครดีและสร้างสรรค์ให้มากขึ้น และ 4. เปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างเครือข่ายครอบครัว นักวิชาการ ให้มีความเข้าใจในการนำเสนอเนื้อหาสื่อ รวมทั้งให้ภาคประชาชนช่วยเป็นเสียงเตือนเฝ้าระวังสื่อที่ไม่เหมาะสมให้มากขึ้น

ละครไทยจัดเรตติ้งเพี้ยน “น.13+” ไฟเขียวให้เด็กดูได้ 

            ด้าน นางอัญญาอร พานิชพึ่งรัก เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ เปิดเผยว่า จากการประเมินรายการละครโทรทัศน์ของเครือข่ายครอบครัวฯ พบว่า ละครเรตติ้ง น.18+ ไม่ควรฉายหลังรายการข่าวภาคค่ำทันที หรือ เวลา 20.30 น. แต่ควรเลื่อนไปแพร่ภาพในเวลา  21.30 น. เป็นต้นไป เพื่อป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนชมละครที่มีภาพ และฉากที่รุนแรง ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานด้านสื่อเห็นเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบจากเลียนแบบละครหลายอย่าง ไม่เพียงเฉพาะการฆ่าตัวตายเท่านั้น ยังมีการเลียนแบบการเป็นชู้ การมีแฟน การดุด่า ทั้งนี้ ขอเสนอให้รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเด็กเยาวชนอย่างจริงจัง รวมทั้งอยากให้มีการกำหนดเวลาของการจัดเรตติ้งให้ตรงกับเนื้อหารายการละครโทรทัศน์ตามแบบมาตรฐานสากลด้วย

ละครไทยจัดเรตติ้งเพี้ยน “น.13+” ไฟเขียวให้เด็กดูได้ 

            ภญ.ดร.พัชราภรณ์  ปัญญาวุฒิไกร ผู้จัดการแผนงานสนับสนุนการพัฒนาเด็กปฐมวัย สสส. กล่าวว่า เด็กและเยาวชน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 8 ปี  เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุดในการชมละคร เนื่องจากไม่สามารถแยกแยะได้ เมื่อเสพสื่อก็จะซึมซับสิ่งที่ได้พบเห็นโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในละครโทรทัศน์ ที่ถ่ายทอดภาพและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกมา 2. กลุ่มเด็กโต เป็นกลุ่มที่มีพัฒนาการทางด้านสติปัญญา สามารถแยกแยะเรื่องจริงและจินตนาการได้ แต่หากชมละครที่มีการแฝงด้วยการกล่าวร้าย ตบตี ใช้ภาพ ภาษาความรุนแรง การต้องการเอาชนะ ก็จะสะสมในความรู้สึกให้เกิดเป็นความรู้สึกเชิงร้ายและส่งผลแสดงออกทางพฤติกรรมตามมาได้

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

 

Update:16-07-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 

Shares:
QR Code :
QR Code