ลดนักดื่มหน้าใหม่ ผลพลอยได้ของ”ทีวีสาธารณะไทย PBS.”
ขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่ ช่วยลดการดื่มน้ำเมาของคนไทย โดยเฉพาะเยาวชน
เนื่องจาก พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 ซึ่งประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2551 กำหนดให้การดำเนินการของ”ทีวีสาธารณะ-ไทย PBS.”โดยไม่ให้มีการหารายได้เชิงพาณิชย์ และห้ามมีการโฆษณาด้วยโดยกำหนดให้ใช้ทุนเริ่มต้นในการดำเนินกิจการมาจาก”ภาษีสรรพสามิต”ซึ่งจะเก็บภาษีสุราและยาสูบเพิ่มขึ้นอีกจากมูลค่าของภาษีที่เสียอยู่เดิมในปัจจุบัน เพื่อนำเงินมาจัดตั้ง”กองทุนทีวีสาธารณะ”
ดังนั้นการขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่(ภาษีบาป)เพื่อมาอุ้มทีวีสาธารณะ จะมีส่วนช่วยลดปริมาณการดื่มน้ำเมาของคนไทยเป็นผลพลอยได้ด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีกำลังซื้อจำกัด เช่น เยาวชน ผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น เพราะจากการศึกษาแนวทางการลดปัญหาจากบุหรี่-เหล้า ทั่วโลก การเพิ่มราคาของบุหรี่-เหล้าเป็นมาตรการสำคัญที่ทำให้การดื่มลดลงอย่างมีประสิทธิภาพอันดับต้นๆ ซึ่งปกตินักรณรงค์และการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะของทั้งประเด็น บุหรี่ และเหล้า ก็มักจะเรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นภาษีของทั้งประเด็น บุหรี่ และเหล้า ก็มักจะเรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นภาษีเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงเท่ากับการเกิด”ทีวีสาธารณะ-ไทย PBS.”ครั้งนี้ เหมือนทำเรื่องเดียวได้ผลทั้ง 2 ด้านเป็นอย่างน้อย คือ เกิดทีวีสาธารณะ และได้ลดนักดื่มหน้าใหม่ ไปด้วยในตัว แม้อาจไม่มากนักก็ตาม(เพราะเป็นการเพิ่มภาษีเพียงเล็กน้อย)
อย่างไรก็ตามความสำคัญของการเกิด”ทีวีสาธารณะ-ไทย PBS.”แล้ว จะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ได้หรือไม่ น่าจะอยู่ที่การดำเนินงานของผู้บริหาร”ทีวีสาธารณะ-ไทย PBS.”เองมากกว่า ที่กำลังจะพิสูจน์ว่าทำให้เป็น ทีวีเพื่อสาธารณะจริงตามเจตนารมณ์ของการมีทีวีสาธารณะมากน้อยแค่ไหน
ในแวดวงนักรณรงค์เพื่อการปกป้องเยาวชนไม่ให้เป็นเหยื่อของน้ำเมา และการลดปัญหาของน้ำเมา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ต้องยอมรับว่า สังคมขาดทรัพยากรสำคัญในการสู้กับธุรกิจน้ำเมา ที่มียอดขายปีละประมาณ 2 แสนล้านบาท(ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากผู้มีรายได้น้อย ที่จน เครียด ดื่มยิ่งจน…)ก็คือ ขาดช่องทางการสื่อสารสาธารณะที่กว้างขวางมากพอ ที่จะทำให้สังคมตระหนักรู้ว่า ขณะนี้น้ำเมาได้ทำร้ายสังคมไทยโดยเฉพาะเยาวชนไปมากขนาดไหน เราต้องทนฟังข่าวผลการวิจัยทุกปีว่าเยาวชนตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรปีละหลายหมื่นคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำแท้งอีกปีละเกือบแสนคน ยิ่งได้ฟัง พระอาจารย์อลงกต แห่งวัดพระบาทน้ำพุ ท่านพูดในหลายกาละว่า เยาวชนติดเชื้อ HIV.เป็นเอดส์ อันมีน้ำเมาเป็นเหตุสูงถึง 70-80% อีกทั้งกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก มีงานวิจัยสรุปแล้วว่าเยาวชนต้องไปอยู่ในสถานพินิจฯ ที่ชื่อเพราะๆ ว่าบ้านเมตตา กรุณา ฯลฯ ซึ่งที่จริงก็คือ คุกเด็กนั่นเอง ก็มีสาเหตุมาจากการดื่มน้ำเมาก่อนทำผิดไม่เกิด 5 ชั่วโมง และมักทำผิดรุนแรงกว่าเยาวชนที่ไม่ดื่มหลายกรณีจากเด็กดีๆ ไม่เคยมีปัญหา แต่เมื่อน้ำเมาเข้าปากกลับไปทำร้ายคนอื่นถึงเสียชีวิต ตัวเองก็เสียอนาคต
เรื่องราวเหล่านี้ควรมีช่องทางในการสื่อสารไปสู่สังคมเพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ตระหนักว่า จะต้องช่วยกันปกป้องลูกหลานของเราจากน้ำเมากันให้จริงจังอย่างไร ก่อนที่จะตกไปเป็นเหยื่อของน้ำเมาจนเสียอนาคตหรือเสียชีวิต โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ทีวีปกติเขาไม่ค่อยมีเวลาให้ได้ออกอากาศ(โดยเพราะเวลาดีๆ ที่เรียกกันว่า prime time)เพราะไม่ทำรายได้ให้ช่องนั้นๆ และหาธุรกิจมาสนับสนุนได้อยาก ทีวีที่ทำแบบธุรกิจต่างเอากำไรเป็นตัวตั้ง ไม่ได้คิดถึงเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติเป็นสาระสำคัญ
เป็นโอกาสของสังคมไทย และเป็นโอกาสของผู้บริหาร”ทีวีสาธารณะ ไทย PBS.”ที่จะพิจารณาว่าจะช่วยกันสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ของเรา ให้เติบโตมาอย่างมีสติปัญญา มีความสุขที่ไม่ต้องดื่มก็ได้ และไม่ต้องถูกน้ำเมาทำลายสมอง ทำลาย สุขภาพอีกหลายระบบตั้งแต่อายุยังน้อย ให้สมชื่อกับเป็นทีวีเพื่อสาธารณะกันได้อย่างไร
สสส.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ www.thaihealth.or.th สอบถาม 0-22980500 ต่อ 1222
เรื่องโดย : สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
Update:28-07-51