ร้อยเอ็ดเดินหน้ารณรงค์การบังคับใช้กฎหมายพื้นที่ อ.พนมไพร
อาสมัครร่วมกับสรรพสามิตและตำรวจช่วยอีกแรง
อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ดได้มีการจัดงาน นมัสการพระธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ โดยการจัดงานในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา คือ เป็นการจัดงานปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นครั้งแรกที่แกนนำกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง แม้จะได้รับการต่อต้านบ้างจากพื้นที่ และคณะกรรมการบางคน ที่ยังเห็นว่า ถ้างานนี้ขาดเหล้า ก็จะทำให้ไม่สนุกสนาน และคนอาจจะมาเที่ยวงานกันน้อย ทำให้รายได้จากการเก็บค่าผ่านประตู และคนที่จะเข้ามาทำบุญในวัดลดน้อยถอยลงไป และอาจจะส่งผลกระทบต่อรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นภายหลัง เช่น ค่าจ้างวงดนตรีหมอลำ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมาย และที่สำคัญเขาลืมคิด ค่าเสียหายจากเหตุทะเลาะวิวาท และความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมันอาจประเมินค่าไม่ได้เลยกับชีวิตของคน
นายมาตย์ คุณิกากรณ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า อ.พนมไพร ได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจอย่างมาก ที่การจัดงาน…..ครั้งนี้สามารถจัดเป็นงานปลอดเหล้าได้ ซึ่งตอนแรกก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า จะมีคนมาเที่ยวกันเยอะเหมือนครั้งที่ผ่านๆมาหรือเปล่า แต่เอาเข้าจริงๆ คนไม่ได้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใดเลย ดูเหมือนมากกว่า เดิมด้วยซ้ำ และที่น่าประทับใจมากที่สุดคือ จะมีเป็นครอบครัวพาลูกพาหลานมาทำบุญกัน และนั่งรอดูการแสดง ซึ่งการแสดงในปีนี้น่าประทับใจมาก คนดูนั่งดูกันอย่างมีความ สุข เรื่องความรุนแรงก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดและสามารถควบคุมได้ และวัยรุ่นที่ส่วนใหญ่ จากแต่ก่อนนั้นมาเพื่อเที่ยวงาน และดื่มเหล้า แต่ปีนี้มีวัยรุ่นที่มากับครอบ ครัวและมาเพื่อทำบุญกันมากเป็นพิเศษ และที่สำคัญ เมื่อมีผู้นำชุมชนอื่นที่มาเที่ยวงานนี้รู้สึกประทับใจมาก และอยากให้ช่วยนำวิธีการจัดงานแบบนี้ไปใช้ในชุมชนของเขาบ้าง ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่สามารถเป็นต้นแบบให้กับชุมชนอื่นด้วย
ทางด้านนายปรีชา แสนรัตน์ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จ.ร้อยเอ็ดได้กล่าวถึงงานครั้งนี้ว่า นับจากที่เรามีการประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานภาคประชา คมและคณะกรรมการควบคุมจังหวัด เราได้มีการวางแผนการทำงานกันอย่างรัด กุม ด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก สรรพสามิตจังหวัด เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข ตำรวจ และอาสาสมัครเผ้าระวัง ร่วมออกตรวจตราพื้นที่กันอย่างเอาจริงเอาจัง และที่สำคัญงานนี้สำเร็จด้วยดีเพราะพระเดชพระคุณจาก พระคุณเจ้า เจ้าอาวาสวัดกลางอุดมเวทย์ ที่ได้ให้กำลังใจคณะทำงานเป็นอย่างดียิ่ง
ทางด้านสาธารณะสุข อ.พนมไพร ได้กล่าวเสริมในตอนท้ายว่า งานนี้เรามาถูกทางแล้ว และที่สำคัญ เราต้องพยายามที่จะนำกฎหมายออกมาใช้ เพราะกฎหมายสามารถที่จะควบคุมการกระทำผิดของคนบางกลุ่มที่ยังฝ่าฝืน และหากว่าเราสามารถที่จะจับกุมผู้กระทำผิดได้ เราก็ให้พ่อหรือแม่ หรือญาติ ไปรับตัวที่โรงพัก และว่ากล่าวตักเตือน เพื่อเป็นการปรามไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เหมือนเป็นบอกเป็นนัยๆว่า คนๆนี้แหละที่ทำให้ชุมชน พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่โรงเรียนเอง เสื่อมเสียชื่อ เสียงทำให้ชุมชนนั้นควบคุมกันเองไปในตัว
อาสมัครร่วมกับสรรพสามิตและตำรวจลงตรวจพื้นที่ในส่วนของการเก็บข้อมูลโดยอาสาสมัครนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพ อ.พนมไพร มีการเก็บรวบรวมข้อมูลตลอดระยะเวลา 3 วัน โดยสถิติคร่าวๆที่เป็นเรื่องของการทะเลาะวิวาท และการดื่มเหล้าในวัด เป็นดังนี้
คืน วันที่ 28 มกราคม 53 ดื่มเหล้าในวัด จำนวน 5 ราย เป็นเยาวชชายทั้งหมด อายุไม่ถึง 20 ปี 3 ราย
ทะเลาะวิวาทไม่ได้รับบาดเจ็บ 2 ครั้ง ถูกจับ 1 คนน้องๆอาสาสมัครเก็บข้อมูลวันงานตลอด 3 วัน
อย่างไรก็ตาม แม้การจัดงานครั้งนี้เป็นการจัดงานปลอดเหล้า แต่บริเวณใกล้เคียงก็มีการจัดงานเช่นกัน คือ บริเวณที่ว่าการอำเภอพนมไพร เป็นการจัดงานมหกรรมโครงการอาหารปลอดภัย โดยได้รับสปอนเซอร์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอำเภอใกล้เคียงก็จะมีการจัดงานประจำปี ก็รับสปอนเซอร์จากเหล้าเช่นกัน เหมือนว่าเค้าเองก็ไม่หยุดนิ่งที่จะรุกตลาดล่าง หลังจากที่ไม่สามารถเข้าในจังหวัดที่จัดงานกาชาดได้
ถึงจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ประชาคมงดเหล้าจังหวัดร้อยเอ็ด ก็จะเดินหน้าต่อ เพื่อการรณรงค์ให้ชุมชนที่ตนอาศัยอยู่และจะขยายผลไปยังชุมชนอื่น ให้สามารถสร้างสังคมที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานต่อไป ของเอาใจช่วย และขอให้กำลังใจในการทำงาน
ที่มา: ศคล.ภ.อีสานตอนล่าง
update: 01-02-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร