ร่วมรณรงค์ต้านพ่อแม่วัยใส ผู้ปกครองด่านแรกคอยแนะ
มีรายงานว่า ผู้หญิงไทยวัยเจริญพันธุ์มีลูกลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่วัยรุ่นซึ่งยังขาดวุฒิภาวะที่จะเป็นแม่กลับขยายจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่อายุน้อยกว่า 20 ปี โดยปัจจัยหลักมาจากการสื่อสารสมัยใหม่ในยุคโลกาภิวัตน์ได้ทำให้อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกครอบงำวิถีชีวิต ส่งผลความเชื่อและค่านิยมในด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการแต่งกาย การคบเพื่อนต่างเพศ การมีเพศสัมพันธ์แบบเสรีขึ้น
นางเพ็ญพรรณ จิตตะเสนีย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือสสส. เปิดเผยสถิติจำนวนเยาวชนกับปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ว่า จากรายงานสภาวการณ์เด็กและเยาวชนไทย ปี 2554 ของสถาบันรามจิตติ จำนวน 20,000 คน ใน 4 ช่วงอายุจาก 20 จังหวัดทั่วประเทศ พบแนวโน้มการมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนอายุ 15-19 ปี
“จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2552 พบสัดส่วนการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชนไม่ลดลง สอดคล้องกับพฤติกรรมเสี่ยงที่สูงขึ้น เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี คลอดบุตรถึงปีละ 3,000 คน กลายเป็นแม่วัยใส และยังพบว่าการติดเชื้อ hiv ในหญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี ที่ตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น”
“ดังนั้น ในฐานะองค์กรที่ต้องการให้ทุกคนมีสุขภาวะที่ดี จึงได้สนับสนุนโครงการพัฒนาระบบการเรียนรู้แบบบูรณาการทักษะชีวิตด้านเพศศึกษา โดยทุกคนต้องช่วยกันสื่อสารให้วัยรุ่นวัยเรียนได้เข้าใจ ว่ารักที่แท้จริงไม่ใช่แค่เซ็กซ์ และต้องอยู่ในวัยที่เหมาะสม” นางเพ็ญพรรณกล่าว
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก สสส.ยังมีข้อเสนอแนะโดยพุ่งเป้าไปที่ผู้ปกครองว่า ต้องช่วยให้คำแนะนำในเรื่องเพศเบื้องต้นแก่ลูกๆ อย่างถูกวิธี ก็จะบรรเทาสถานการณ์ดังกล่าว โดยที่ผ่านมา สสส.ได้รณรงค์ทางสังคมให้เกิดความตระหนักและกระตุ้นให้ครอบครัวมีบทบาท ให้ข้อมูล ความรู้ สร้างทัศนคติที่ดีให้แก่บุตรหลาน เพราะจากการที่สำรวจพบว่าวัยรุ่นในตอนต้นต้องการพูดเรื่องเพศ เรื่องความปลอดภัย ความสัมพันธ์กับพ่อแม่ ไม่อยากไปดูหนังสือโป๊หรือเปิดอินเทอร์เน็ต
แต่พออายุมากขึ้นก็ไม่อยากคุยกับผู้ปกครอง แต่กลับต้องการพูดกับเพื่อนมากขึ้น จึงมองเห็นช่องทางช่วงต้นวัยรุ่นเป็นจังหวะที่ดี หากครอบครัวมีการสื่อสารที่ดีจะเป็นการเตรียมความพร้อมของเด็ก เมื่อเขาเข้าโรงเรียนก็จะได้รับการเรียนรู้เรื่องเพศเพิ่มมากขึ้น และสามารถป้องกันปัญหาระยะยาวได้
สำหรับปัญหาในปัจจุบันคือ พ่อแม่จะอายหรือกังวลใจว่าจะพูดเรื่องเพศกับลูกอย่างไร เพราะมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี ไม่อยากให้รู้ แต่บางครอบครัวอยากพูด อยากเตือน แต่ไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไรให้ถูกต้อง และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงมีช่องว่างเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรมีความกล้า และเริ่มต้นแนะนำลูก แรกๆ อาจไม่ต้องพูดเรื่องเพศสัมพันธ์ก่อน เพราะวัยรุ่นเขาอยากจะรู้ในเรื่องการวางตัวอย่างไรกับเพศตรงข้าม เขาจะคบหาแค่ไหนถึงจะปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ
แต่หากพ่อแม่กังวลว่าคุยเรื่องเพศเท่ากับพูดเรื่องเซ็กซ์ จะทำให้ไม่กล้าคุย อีกทั้งการพูดเรื่องเพศอาจทำให้วัยรุ่นกลัว ปิดปากไม่อยากพูดต่อไปก็ได้ ก็อย่ากังวลให้มาก โดยขอให้เริ่มต้นเล่าเรื่องสมัยพ่อแม่จีบกันอย่างไร เพื่อแบ่งปันประสบการณ์กับลูก เพื่อสร้างความคุ้นเคย จากนั้นก็พยายามสอนเสริมเข้าไป
นอกจากนี้ยังต้องเน้นย้ำวิธีการป้องกันและเปลี่ยนทัศนคติเดิม และความความเชื่อผิดๆ อย่างน้องวัยรุ่นผู้ชายมองว่าใช้ถุงยางอนามัยไม่แมน ขี้กลัว ไม่กล้าเสี่ยง หรือจะใช้เฉพาะไปเที่ยวประเวณี ถ้ากับเพื่อน กับแฟน ไม่ใช้ถุงยาง
ขณะที่ผู้หญิงไม่กล้าบอกให้ผู้ชายใส่ หรืออาจจะแพ้ถุงยาง และกลัวว่าแฟนไม่รัก อีกทั้งถุงยางอนามัยยังมีราคาแพงสำหรับวัยรุ่นด้วย ผู้ปกครองต้องบอกเขาว่าเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์
อย่างไรก็ตาม เรื่องพ่อแม่วัยใสของประเทศไทยอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี ยกตัวอย่างในหลายประเทศที่แก้ปัญหาสำเร็จก็รณรงค์กันหลายสิบปี เพราะเขาลงทุนให้ความรู้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง
ยกตัวอย่าง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสังคมเขาไม่สนใจว่าเด็กจะมีเพศสัมพันธ์กันเมื่ออายุเท่าไหร่ แต่เขาให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและความสุขในชีวิต ให้การศึกษาเรื่องเพศตั้งแต่ระดับประถมศึกษา และให้ค่อยๆ ให้อย่างเหมาะสมไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย จนทำให้แก้ปัญหาได้หมด
10 ข้อแนะป้องกันแม่วัยใส
1.วัยรุ่นชายหญิงควรวางตัวต่อกันอย่างสุภาพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเรียนรู้ถึงความคิดต่างกันของหญิงชายในเรื่องเพศ กล่าวคือผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่มีความรัก เป็นการหาความสุขร่วมกันและไม่ต้องผูกพัน ส่วนผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์เพราะความรัก ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับชายใดจะต้องการมีความผูกพันกับชายคนนั้น
2.วัยรุ่นชายควรคิดเสมอว่าวัยรุ่นหญิงเป็นเพศเดียวกับแม่ พี่น้อง ควรช่วยเหลือและให้เกียรติ
3.หลีกเลี่ยงการถูกเนื้อต้องตัวกัน เพราะอาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่คาดคิดได้
4.หลีกเลี่ยงการไปพักค้างคืนร่วมกันเป็นหมู่คณะ หรือตามลำพัง
5.หลีกเลี่ยงการอยู่ด้วยกันตามลำพังในที่ลับตาคน
6.หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่เปลี่ยว โรงแรม และสถานเริงรมย์ทุกรูปแบบ
7.หลีกเลี่ยงการนัดหมายกับเพศตรงข้ามในยามวิกาล โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิง
8.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หรือสารเสพติดใดๆ เพราะอาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจได้
9.วัยรุ่นหญิงควรแต่งการเรียบร้อยและมิดชิด ไม่ควรแต่งกายในลักษณะยั่วยุให้ผู้พบเห็นเกิดอารมณ์ทางเพศ
10.หลีกเลี่ยงการคบเพื่อนที่ชวนออกไปเที่ยวข้างนอก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า