รู้ทันอาการตัวเหลือง
อาการตาเหลือง ตัวเหลืองพบได้ทั้ง ในทารกแรกเกิดและเด็กโต ภาวะที่อาจทำให้ดูคล้ายตาเหลืองตัวเหลือง คือ การกินผักที่มีแคโรทีน เช่น ฟักทอง หรือ แครอต มากเกินไป และภาวะโลหิตจาง ซึ่งทั้ง 2 ภาวะนี้ จะมีตาขาวเป็นสีขาวปกติ
สาเหตุ เพราะ 1.ตับยังทำงานไม่สมบูรณ์ พบในเด็กทารกแรกเกิดช่วงอายุ 1-2 สัปดาห์แรก 2.นมแม่ ทารกแรกเกิดช่วงอายุ 1 สัปดาห์แรกที่ยังดูดนมแม่ได้น้อย หรือทารกในช่วงอายุ 1-2 เดือน ที่กินนมแม่และตับทำงานไม่ปกติชั่วคราว 3.เม็ดเลือดแดงแตก อาจเกิดจากกลุ่มเลือดแม่-ลูกไม่เข้ากัน ซึ่งพบในทารกแรกเกิดช่วงอายุ 1 สัปดาห์แรก หรืออาจเกิด จากเม็ดเลือดแดงขาดจีซิกซ์พีดี ซึ่งพบ ในทารกแรกเกิดหรือเด็กโตก็ได้
นอกจากนี้ โรคธาลัสซีเมียก็มีเม็ดเลือดแดงแตก และ ตาเหลืองตัวเหลืองได้ ตับอักเสบจากยา ติดเชื้อไวรัส เห็ดพิษ สารเคมี แพ้ภูมิตนเอง สารทองแดงในตับมาก การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ท่อน้ำดีผิดปกติ เช่น ท่อน้ำดีตีบตัน ท่อน้ำดีโป่งพอง นิ่วอุดตัน ต่อมไทรอยด์ ทำงานน้อย (โรคเอ๋อ)
การรักษาเบื้องต้น ถ้าเป็นทารกแรกเกิด ที่ยังดูดนมแม่ได้น้อย พยายามกระตุ้นให้ทารกดูดนมแม่ทุก 2-3 ชั่วโมง จะทำให้นมแม่มีปริมาณมากขึ้น ไม่ควรให้ทารกดูดน้ำมากๆ เพราะทำให้ทารกได้สารอาหารน้อยลง ถ้าเป็นเด็กโตที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเฉียบพลันจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ไม่ควรให้ดื่มแต่น้ำหวานอย่างเดียว ควรให้กินอาหารอ่อน อาหารไม่มัน และกินครั้งละน้อยๆ ถ้ามีตาเหลือง ตัวเหลืองขณะกินยา ให้หยุดกินยานั้นไปก่อน
อาการที่ควรปรึกษาแพทย์ ทารกมีไข้ร่วมกับตาเหลือง ตัวเหลือง ทารกที่ยังมีตาเหลือง ตัวเหลืองหลังอายุ 2 สัปดาห์ ทารกที่มีปัสสาวะสีเหลืองเข้มร่วมกับอุจจาระสีเหลืองอ่อนหรือซีดขาว ทารกดูดนมไม่เก่ง หลับมากกว่าปกติ ท้องผูก ร้องเสียงแหลม น้ำหนักขึ้นน้อย มีตาเหลือง ตัวเหลืองร่วมกับมีอาการทางสมอง เช่น หลับมากกว่าปกติ ซึม พูดไม่รู้เรื่อง
การป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส ตับอักเสบเอและบี ไม่ควรซื้อยาใช้เอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ ไม่ใช้ยาแก้อักเสบโดยไม่จำเป็น ไม่ใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด ไม่ใช้ยาแอสไพรินขณะป่วยเป็นไข้หวัด หรืออีสุกอีใส ไม่เจาะสักตามร่างกาย ถ้าจำเป็นต้องรับเลือด ต้องเป็นเลือดที่ตรวจกรองหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีแล้ว
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน โดย รศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต