รู้จักฝี ดูแลก่อนกลัดหนอง

ที่มา : เดลินิวส์


รู้จักฝี ดูแลก่อนกลัดหนอง thaihealth


แฟ้มภาพ


"โรคฝี" อาจจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นจนเห็นชินตาเหมือนกับ "สิว" แต่ก็พบเห็นผู้ป่วยได้จำนวนไม่น้อย และสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก บางคนถึงขั้นจับไข้ไปหลายวัน เรียกว่าจะปล่อยให้หายเองแบบสิวคงไม่ได้


เรื่องนี้ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง ระบุว่า "โรคฝี" เป็นโรคที่เกิดจากการได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย อาทิ "เชื้อสแตฟิโลค็อคคัส ออเรียส" และเชื้ออื่น ๆ แค่ผิวถลอก หนามเกี่ยว แผลเล็ก ๆ เชื้อดังกล่าวก็สามารถเข้าไปได้ อย่างอาชีพเกษตรกร สามารถเจอได้เยอะ เพราะมีโอกาสเกิดบาดแผลตามร่าง กายได้ง่าย


ทั้งนี้ "โรคฝี" สามารถเกิดขึ้นได้ทุกตำแหน่งของร่างกาย อาจมีลักษณะเป็น "ไตแข็ง" ก็ได้ หรือ "อักเสบบวม แดง" ก็ได้ "สร้างความเจ็บปวดบริเวณโดยรอบ" หากไม่ได้รับการรักษา โรคอาจจะมีการ "กลัดหนอง"จัดอยู่ในช่วงระยะกลาง ๆ ของโรค


กล่าวคือเมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรคเข้ามาแล้วร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับเชื้อโรค จำลองเหตุการณ์ง่าย ๆ ก็เหมือนกับสมรภูมิรบ โดยมีเม็ดเลือดขาวทำหน้าที่เป็นทหารรักษาดินแดน ทหารเม็ดเลือดขาวที่ต่อสู้บาดเจ็บล้มตาย ทับถมกันมากเข้ากลายเป็น "หนอง" หากปล่อยเอาไว้ก็จะแตกออกมาในที่สุด


พญ.มิ่งขวัญ บอกว่า วิธีการรักษาไม่ยาก หากมีแผลเปิดก็ต้องทำแผล ล้างแผล ใส่ยาฆ่าเชื้อที่ตรงกับเชื้อที่คาดว่าเป็นสาเหตุ ซึ่งโดยทั่วไปยาค่อนข้างเอาอยู่ รับประทานยาฆ่าเชื้อ 7-14 วัน ก็ทำให้ฝียุบได้หากมีหนองก็ต้องระบายหนองออก หรืออาจจะต้องมีการผ่าตัดออก


ทั้งนี้ หากมีไข้ หรือมีภาวะต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย เช่น หากเกิดฝีที่ขาแล้วมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวม จะต้องมีการให้ยาฉีดให้ทางเส้นเลือด


อย่างไรก็ตาม "โรคฝี" สามารถเกิดซ้ำได้ ดังนั้นเวลาที่คนไข้เป็นโรคฝีมาหาหมอในระยะที่เพิ่งเป็นตุ่มแดง ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีของการรักษา เพราะฝียังไม่แตกจึงสามารถรักษาโดยไม่ต้องเจ็บตัว แต่ถ้ามาในระยะที่ฝีใกล้แตกอาจจะต้องใช้การผ่าตัดอย่างที่ว่า ก็จะทำให้เจ็บตัว


อาจจะฟังแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นโรคที่ไม่ค่อยน่ากังวลนัก แต่ "พญ.มิ่งขวัญ" บอกว่า โรคนี้หากไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้แพร่กระจายไปยังบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้ ที่กลัวคือเชื้อไม่ได้อยู่เฉพาะที่ใต้ผิวหนังเท่านั้น หากลงลึกมากเชื้ออาจจะเข้าสู่กระแสเลือดได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอุปสรรคอยู่ที่ความเสื่อมถอยของร่างกาย


สำหรับเรื่องอาหารการกินไม่มีข้อห้ามผู้ป่วยโรคฝีสามารถรับประทานได้หมด เพียงแต่กรณีที่มีการพูดถึงข้อห้ามเรื่อง "ของหมักดอง" นั้นน่าจะเป็นการพูดถึงเรื่องสุขภาพโดยรวมมากกว่า


เอาเป็นว่ากินอาหารที่เป็นประโยชน์ ทำร่างกายให้สมบูรณ์ แข็งแรง รักษาความสะอาดของร่างกาย ก็ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้มาก ไม่เฉพาะโรคฝีเท่านั้น

Shares:
QR Code :
QR Code