รุก “เชียงใหม่เอี่ยม” เฟส2
ฝันสู่เมืองน่าอยู่
โครงการปฏิบัติการ “เชียงใหม่เอี่ยม” เฟส 1 ที่หลายหน่วยงานใน จ.เชียงใหม่ ทั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ ภาคีเครือข่ายองค์กรพัฒนาเมือง เช่น มูลนิธิสถาบันพัฒนาเมือง เครือข่ายเขียว สวย หอม คณะกรรมการฟื้นฟูคลองแม่ข่า ชมรมจักรยานวันอาทิตย์ เครือข่ายนักผังเมืองเชียงใหม่ สถาบันการศึกษาและตัวแทนชุมชน ร่วมกันขับเคลื่อนกลไกและปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเมืองเชียงใหม่ 99 วัน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นต้นมา เพื่อจัดการกับ 3 ปัญหาหลัก คือ ปัญหาขยะล้นเมือง ปัญหาน้ำเสียและปัญหาด้านเกษตรอินทรีย์อย่างเป็นรูปธรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ถือว่าประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่งและปิดโครงการไปแล้ว
แต่โครงการยังเดินหน้าผลักดัน “ปฏิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม เฟส 2″ เพื่อสร้างกลไกให้ชุมชนมีส่วนร่วม และยกระดับกิจกรรมที่ทำให้เป็นรูปธรรม สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งพาเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงาน สสส. โดยที่ สสส.จะถอนตัวออกมาสู่การทำหน้าที่พี่เลี้ยงเป็นหลัก หลังจากในเฟสแรก สสส.มีบทบาทค่อนข้างมาก สำหรับโครงการปฏิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม มีที่มาจากพื้นที่ 40 ตารางกิโลเมตรในเขตเทศบาล ที่มีประชากรมากกว่า 3 แสนคน นอกจากการคัดแยกขยะแต่ละประเภทเพื่อนำมารีไซเคิล ยังนำขยะประเภทเศษใบไม้ วัชพืชมาทดลองทำเป็นปุ๋ยหมัก แต่ละวันมีขยะประเภทเศษใบไม้มากถึง 2 ตัน หลังทดลองมาได้ระยะหนึ่งมีผลตอบรับค่อนข้างดี สามารถลดการเผาเศษใบไม้ที่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษได้
เทศบาลนครเชียงใหม่ จึงเลือกใช้สถานที่ข้างสวนสาธารณะรถไฟทำเป็นลานปุ๋ยหมัก มีประชาชนนำขยะเศษใบไม้และวัชพืชมาให้หน่วยงานทหารในพื้นที่ เช่น กองพันสัตว์ต่างก็นำมูลของสัตว์มาให้ และเมื่อขยะเหล่านี้ผ่านกระบวนการจนกลายเป็นปุ๋ยหมัก เทศบาลได้ส่งคืนให้ทหารนำไปใช้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งแจกจ่ายให้ประชาชน ที่เหลือนำไปใช้ในการดูแลต้นไม้ในเขตเทศบาล
“การริเริ่มโครงการเพื่อประโยชน์ของเมืองเชียงใหม่ ควรเริ่มจากสิ่งที่ง่ายก่อนเพื่อดึงให้คนส่วนใหญ่มาเข้าร่วมจะทำให้เกิดความยั่งยืนมากกว่า เช่น การจัดการกับปัญหาขยะ สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ในครัวเรือน เพราะเป็นโจทย์ที่คนรักสิ่งแวดล้อมสามารถเริ่มต้นได้ทันที” ทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวถึงสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว
“การนำขยะประเภทเศษใบไม้มาทำเป็นปุ๋ยหมักสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้เข้าไปช่วยเหลือเทศบาล ทั้งด้านกรรมวิธีและวิธีการบริหารจัดการ ผ่านไปเพียง 2 เดือน ก็เริ่มเห็นผล มีประชาชนสนใจนำใบไม้มาให้และขอซื้อปุ๋ยหมักกลับไปใช้ จนปัจจุบันเทศบาลได้จัดทำลานปุ๋ยหมักขึ้นมา ในอนาคตสามารถสร้างให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานเรียนรู้แก่ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นได้อีก” ผศ.ธีรพงษ์ สว่างปัญญากูร ประจำภาควิชาวิศวกรรมเกษตรและอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ระบุ
ณัฐพงษ์ จารุวรรณพงศ์ ผู้จัดการโครงการปฏิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม จาก สสส. กล่าวว่า หากรากฐานที่ชุมชนได้ร่วมกันทำนั้นมีความเข้มแข็งและแน่นหนา แปลงนามธรรมให้เป็นรูปธรรมได้ มีกลไกการบริหารจัดการเมืองอย่างบูรณาการแล้ว อาจนำไปสู่การจัดตั้งบรรษัทพัฒนาเมือง หรือ สหกรณ์พัฒนาเมือง เพื่อวางแผนผังเมืองสู่เมืองน่าอยู่ (
ทั้งนี้ สิ่งที่ สสส.และโครงการมุ่งหวังเพื่อพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ไม่ได้วางเป้าหมายการดำเนินงานไว้เพียง 1-2 ปีเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้คือ สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อดึงความร่วมมือ เพราะในพื้นที่เมืองมีทุนสำคัญ คือ ทรัพยากรและความคิด เป้าหมายโครงการปฏิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม เฟส 2 ที่ดำเนินการในขณะนี้ จึงต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้โครงการเกิดความยั่งยืน ช่วยกันนำเสนอแนวความคิดที่เป็นแผนระยะยาว
5 ปี นับจากนี้ไป จึงเป็นความท้าทายที่สำคัญ ทั้งการแก้ไขปัญหาหมอกควันจากการเผาขยะใบไม้ที่ก่อให้เกิดมลพิษ ลดปัญหาขยะล้นเมือง ฟื้นคลองแม่ข่าให้กลับมาใสสะอาด และกลายเป็นที่พักผ่อนของชุมชน เพราะหากทำได้จริงนั่นคือการสร้างความเป็นเมืองน่าอยู่ให้เกิดขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update : 10-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร