รับมืออาการแพ้ “เครื่องสำอาง”
ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์
แฟ้มภาพ
คุณผู้หญิงหลายคนมักประสบกับปัญหาการใช้เครื่องสำอางแล้วเกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะในคนที่ผิวบอบบางและแพ้ง่าย ฉะนั้นควรมาทำความเข้าใจกับเรื่องนี้เพื่อจะได้สังเกตตัวเองและรับมือได้อย่างถูกต้อง
ในยุคปัจจุบันมีการใช้เครื่องสำอางเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดภาวะผื่นแพ้เครื่องสำอางได้ สาเหตุอาจเกิดจากการแพ้สี แพ้สารแต่งกลิ่น แพ้สารกันเสียหรือส่วนประกอบอื่น ๆ ซึ่งอยู่ในเครื่องสำอางชนิดนั้น ซึ่งในปัจจุบันการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกก็สามารถเกิดอาการแพ้ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดอาการบวม แดง ตึง แห้งเป็นขุยหรือแสบลอกได้ ในปัจจุบันสามารถทดสอบเพื่อหาสาเหตุของการแพ้เครื่องสำอางโดยปรึกษาแพทย์เฉพาะทางได้
นพ.ธนิศร สุขะกุล ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า วิธีการหลีกเลี่ยงการแพ้เครื่องสำอางทำได้โดย ก่อนใช้เครื่องสำอางควรศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะมีเลขที่ใบรับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย) นอกจากนี้ยังควรมีส่วนประกอบอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ และไม่ควรเปลี่ยนเครื่องสำอางบ่อยเกินไป เนื่องจากจะกระตุ้นภาวะแพ้ได้ และหากต้องการทดสอบก่อนใช้สามารถทาผลิตภัณฑ์บนบริเวณท้องแขนหรือบริเวณข้อพับขนาดประมาณเหรียญ 10 บาท ทาเช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ หากมีอาการบวม แดง คัน ควรหยุดทาและไม่ควรใช้
สำหรับวิธีการรักษาเมื่อมีอาการแพ้เครื่องสำอาง หากมีอาการไม่มาก การหยุดใช้เครื่องสำอางที่สงสัย ก็อาจทำให้อาการดีขึ้น แต่หากมีอาการแห้ง ตึง คันก็อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังเพื่อ ลดอาการดังกล่าว ในกรณีที่เป็นมาก อย่างเช่น การใช้ยาย้อมผม ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวม แดงลงมาที่บริเวณใบหน้า ลำคอ จนกระทั่งหายใจลำบาก ควรพบแพทย์ ซึ่งแพทย์จะจ่ายยา เช่น ยาสเตียรอยด์ หรือยารับประทานเพื่อลดอาการอักเสบของผิวหนัง
ขนาดเครื่องสำอางยังแฝงไปด้วยอันตราย แต่การที่ไม่ได้เติมแต่งให้สวยงามดูจะขาดความมั่นใจ ฉะนั้นวิธีการป้องกันการแพ้เครื่องสำอางน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด วิธีง่าย ๆ คือ ก่อนใช้เครื่องสำอาง สามารถทดสอบได้โดยการนำผลิตภัณฑ์ทาลงบริเวณท้องแขน หรือบริเวณข้อพับขนาดเหรียญ 10 บาท ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ หากมีอาการบวม ตึง แดง คันควรหยุดทา และไม่ควรใช้เครื่องสำอางนั้น หากสงสัยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้