รักอย่างปลอดภัย ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

/data/content/19581/cms/dgijkmpxy356.jpg

          กรมสุขภาพจิต แถลงข่าวโครงการมหกรรมวาเลนไทน์ “วัยรุ่นฉลาดรัก รู้จักป้องกัน love say play ปี3” เพื่อรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม

          นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์  รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดการตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่มีความพร้อม โดยพบคุณแม่วัยใสจำนวนมากถึง 54 คนต่อ 1000 คน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของแม่และสติปัญญาของลูกได้ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ที่พบโรคหนองในมากถึง ปีละ 6000 คน และหูดหงอนไก่ ปีละ 2400 คน ส่วนโรคที่ติดต่อรุนแรงโรคเอดส์ พบว่าผู้ป่วยร้อยละ 85 อยู่ในกลุ่ม อายุ 15-45 ปีโดยผู้ป่วยจะติดเชื้อประมาณ 8 ปีถึงจะแสดงอาการ และพบวัยรุ่นติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่าช่วงอายุอื่น 3-9 เท่า และมีอัตราใช้ถุงยางไม่ถึงร้อยละ 50

          กระทรวงสาธารณสุข จึงวางแผนการทำงาน ร่วมกับหลายหน่วยงาน กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กรมควบคุมโรค และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเสริมความรู้และเพิ่มทางเลือกในการรับคำปรึกษาแก่วัยรุ่น 12-24 ปี ซึ่งมีกว่า10ล้านคน ทั้งเปิดศูนย์บริการคลินิกสุขภาพและให้คำปรึกษาวัยรุ่นโรงพยาบาลชุมนุมชน 835 แห่ง และโรงเรียนประจำอำเภอ 1โรงเรียน 1 โรงพยาบาลเพื่อ ให้คำปรึกษา

          ด้านนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้รณรงค์ให้ความรู้เรื่องเพศที่ถูกต้อง โดยการเพิ่มทักษะ ให้วัยรุ่นเข้าใจความแตกต่างระหว่างเพศ การปรับตัว ,ความรักหญิงชายความสัมพันธ์เชิงบวกที่มีมากกว่าเรื่องเพศสัมพันธ์,เพศศึกษาและการป้องกันการตั้งครรภ์ ขณะเดียวกันเดือนพฤษภาคมนี้ จะเปิดตัวแอพพริเคชั่น “ทักษะชีวิตและทางออกเมื่อเผชิญปัญหา” ให้ดาว์นโหลดได้ผ่านสมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ต

          ส่วนประเด็นการรณรงค์ ในช่วงวาเลนไทน์ และวันมาฆบูชา พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ให้ถือว่าวันสำคัญทั้งสองวันถือเป็นวันที่ดี เป็นโอกาสแสดงความรักต่อกัน จากการสำรวจพบว่าเด็กเยาวชน ไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ หรืออยู่กับครอบครัวน้อยลง ดังนั้นวันวาเลนไทน์ และมาฆบูชาควรเป็นวันที่ครอบครัวอยู่ร่วมกัน เชื่อมโยงความรู้สึกพ่อแม่ลูก ทำให้ครอบครัวอบอุ่น เช่น บอกรักพ่อแม่ โดยไม่จำกัดเฉพาะคู่รักอย่างเดียว หรือ วันที่ทำกิจกรรมร่วมกันเช่น ทำบุญตักบาตรตอนเช้า หรือเข้าวัดทำบุญ ก็จะช่วยลดปัญหาและปัจจัยเสี่ยงในช่วงเทศกาลได้

 

 

          ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code