ระวัง 3 โรค จากเสื้อกันหนาวมือสอง
สธ.เตือน ปชช.ระวัง 3 โรค จากเสื้อกันหนาวมือสอง
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว หลายจังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศเย็นลง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกาย เรื่องที่ห่วงใยคือ ประชาชนส่วนใหญ่นิยมซื้อเสื้อกันหนาวมือสองที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งอาจมีเชื้อโรคหรือพาหะนำโรคติดมากับเสื้อผ้าที่เก็บรวมกันนานๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สวมใส่ได้ ที่สำคัญ มี 3 โรค ได้แก่ 1.โรคกลากเกลื้อนจากเชื้อรา หากไม่ซักทำความสะอาดก่อนสวมใส่ จะทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงกลายเป็นผื่นแพ้และคัน 2.โรคภูมิแพ้ ซึ่งเกิดได้หลายกรณี ทั้งจากฝุ่นใยผ้าและฝุ่นที่ติดตามกระสอบบรรจุระหว่างการขนส่ง หรือจากการแพ้น้ำยารีดผ้าเรียบที่ใช้รีดก่อนจำหน่าย ซึ่งจะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูง อาจระคายเคืองผิวหนังได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาจเกิดอาการรุนแรงมากขึ้น 3.โรคผิวหนังจากพาหะนำโรคที่ชอบอาศัยอยู่ในใยผ้าที่สกปรก ได้แก่ ตัวไร ตัวเรือด เห็บ หมัด และโลน เมื่อสัมผัสผิวหนังจะดูดเลือด ทำให้เกิดอาการแพ้เป็นผื่นแดง คัน และเกาจนเกิดเป็นแผลติดเชื้อได้
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการเลือกซื้อและใช้เสื้อกันหนาวมือสอง ขอแนะนำให้ผู้ขายวางเสื้อผ้าบนโต๊ะ ไม่วางกองกับพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีฝุ่นละอองและแมลงชนิดต่างๆ เข้าไปอาศัยในเสื้อผ้าได้ ส่วนผู้ซื้อควรสวมผ้าปิดจมูกขณะเลือกซื้อ เพื่อป้องกันการสูดฝุ่นละอองที่มากับเสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสภาพดี ตรวจสอบรอยด่างดำ รอยคราบสกปรก หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ทำจากหนังสัตว์ประเภทขนฟู เนื่องจากทำความสะอาดยาก อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ ที่สำคัญคือการทำความสะอาดก่อนใส่ หลังซักแล้วให้นำมาต้มในน้ำเดือดหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที-1 ชั่วโมง นำไปตากแดดจัดให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค ส่วนผู้ที่ผิวหนังมีอาการคันหลังใช้เสื้อกันหนาวมือสอง ไม่ควรแคะ แกะเกา หรือปล่อยไว้จนลุกลาม ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนัง
ที่มา : เว็บไซต์มติชนออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต