ระวัง! โจรในซูเปอร์มาร์เก็ต

เดินช้อปคนเดียว ตกเป็นเหยื่อไม่รู้ตัว

 

 ระวัง! โจรในซูเปอร์มาร์เก็ต

          บรรดาแม่บ้านที่ชอบจับจ่ายตามห้างซูเปอร์มาร์เก็ต คงต้องระแวดระวังกระเป๋าเงินอันมีค่าไว้ให้ดีๆ เพราะเดี๋ยวนี้เหล่ามิจฉาชีพกำลังพุ่งเป้าหมายในการลักทรัพย์มายังลักษณะนี้กันแล้ว

 

          แม้ว่าเรื่องการขโมยเงินในห้างดูจะเป็นเรื่องที่เก่าแก่นมนาน แต่ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ ขโมยขโจร ก็เยอะขึ้นเป็นเงาตามตัว ไปเที่ยวที่ไหน ไปช้อปที่ใด ก็ต้องระมัดระวังกันให้มาก แล้วโจรพวกนี้มีตั้งแต่ทำกันเป็นขบวนการ แบบฉายเดี่ยว แบบคู่ผัวเมีย ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องคอยดูแลตัวเองให้พ้นจากเงื้อมมือคนพวกนี้

 

          วิธีการลักทรัพย์ของโจรในซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ล่าสุดนั้นจะใช้วิธีการแฝงตัวมา ในคราบของผู้มาจับจ่ายซื้อของ ดังที่มีคนเคยโดนมาแล้วและบอกเล่าผ่านทางอินเทอร์เน็ตว่า มิจฉาชีพจะใช้สารระเหยชนิดหนึ่งป้ายตรงที่จับรถเข็นของเหยื่อ จากนั้นก็รอจนกว่าสารระเหยดังกล่าวจะออกฤทธิ์ จึงลงมือปฏิบัติการฉกฉวยทรัพย์สินของมีค่าไปหน้าตาเฉย

 

          1 ในผู้เคราะห์ร้ายเล่าเหตุการณ์ให้เราฟังว่า เธอไปเลือกซื้อและจับจ่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้บ่อยครั้ง ในครั้งนี้ก็เช่นกัน โดยเธอไปกับสามีกับลูกและได้แยกไปเพื่อจับจ่ายสินค้า ระหว่างที่เธอกำลังเข็นรถเข็นเพื่อหยิบสินค้า เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงมิจฉาชีพ กำลังใช้ยาป้ายตรงที่จับรถเข็นพอดี ประจวบเหมาะ เธอหันกลับมาเอาของใส่รถเข็นจึงเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเข้า เลยเดินไปบอกหญิงคนดังกล่าวว่ารถเข็นคันนี้เป็นของเธอ หญิงมิจฉาชีพดังกล่าวจึงปล่อยรถเข็นทำเป็นเมินแล้วเดินจากไป

 

          เธอไม่ได้เอะใจถึงเรื่องดังกล่าวตั้งหน้าตั้งตาหยิบสินค้าต่อไป จากนั้นได้วางมือลงบนราวจับรถเข็นและสังเกตว่าผู้หญิงคนที่มาจับรถเข็นของเธอนั้น ยังคงเดินวนเวียนอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมผู้ชายและ เด็กเล็กๆ อีกคนอยู่ไม่ห่าง

 

          ไม่นานนัก เธอเริ่มรู้สึกเวียนศีรษะ ร่างกายชา และอ่อนแรงลง ขณะที่คนกลุ่มนั้นก็ยังคงเดินตามเธออย่างไม่ลดละ เมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติได้ว่าคนกลุ่มนั้น มีพิรุธแน่ จึงพยายามโทรศัพท์หาสามี แต่จนแล้วจนรอดก็โทรไม่ติดเพราะสายไม่ว่าง 

 

          เธอก้าวเดินต่อไปไม่ไหว จึงเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ให้ประคองนั่ง แล้วเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง จากนั้นได้ขอร้องให้พนักงานคนดังกล่าวอยู่เป็นเพื่อนเธอจนกว่าสามี และลูกจะมา เพราะคนกลุ่มนั้นยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ไม่นานนักสามีเธอก็โทรศัพท์กลับมาแล้วเดินมาสมทบ

 

          ส่วนคนกลุ่มดังกล่าวเมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ตามลำพัง จึงหยุดพฤติกรรมเดินตามหรือจ้องมองก่อนจะเดินจากไป สามีพาเธอไปพบแพทย์เพื่อเช็กอาการว่าสาเหตุที่จู่ๆ เกิดเวียนศีรษะและอ่อนแรงลงไปนั้นเกิดจากอะไร เพราะปกติมีสุขภาพแข็งแรงดี เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเธออาจจะโดนสารระเหยชนิดหนึ่ง  ซึ่งหญิงคนดังกล่าวได้ป้ายไว้ตรงที่จับรถเข็น จึงทำให้เธอเกิดอาการชา อ่อนแรงกำลังลง หรือถึงขั้นหมดสติได้

 

          เรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบไปเดินช้อปปิ้งตามลำพังได้เป็นอย่างดี ว่าอย่าชะล่าใจคิดว่าไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร คนเยอะแยะ เพราะสิ่งที่คุณคิดนั่นแหละจะทำให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพได้อย่างง่ายดาย

 

          และไม่ใช่แค่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น แต่ตามสถานที่ต่างๆ ที่คนพลุกพล่านก็เช่นกัน ฉะนั้นการระแวดระวังตัวในทุกสถานการณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น ในยุคที่คนแต่งตัวดีๆ ก็อาจจะเป็นคนร้ายได้ทุกเมื่อ

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์

 

 

update 28-07-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code