ระบบสาธารณสุขโลกย่ำแย่ ทำเด็กเสียชีวิต10 ล้านต่อปี

เผย เด็กทั่วโลกเสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน

 

          มะนิลา – “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” เผย เด็กทั่วโลกเสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานเกือบ 10 ล้านคนต่อปี  ชี้มีช่องว่างระหว่างเด็กรวยและจน แนะสร้างเครือข่ายสาธารณสุขชุมชนให้ความรู้ชาวบ้าน

 

          เซฟ เดอะ ชิลเดรน ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลในสหรัฐ เปิดเผยรายงานว่า ทั่วโลกมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวนกว่า 200 ล้านคน ที่ไม่ได้รับการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ทำให้เด็กเหล่านี้เสียชีวิต เนื่องจากโรคต่างๆ อาทิเช่น โรคท้องร่วงและปอดอักเสบ เกือบ 10 ล้านคนในแต่ละปี

 

          รายงานของ เซฟ เดอะ ชิลเดรน ระบุว่า การเสียชีวิตเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา โดยเด็กที่มีฐานะยากจนจะต้องเผชิญความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าเด็กที่มีฐานะร่ำรวยกว่าถึง 2 เท่า

 

          สวีเดน นอร์เวย์ และ ไอซ์แลนด์ เป็นประเทศที่ให้การรักษาสุขภาพแม่และเด็กดีที่สุดจากการสำรวจกว่า 146 ประเทศ ขณะที่ไนจีเรียเป็นประเทศที่อยู่ในลำดับสุดท้าย

 

          รายงานระบุว่า 8 ใน 10 ของชาติที่รั้งอันดับท้ายสุด อยู่ในเขตซับ-ซาฮาราของทวีปแอฟริกา โดยมารดาเด็ก 4 ใน 5 คน มีแนวโน้มเสียลูกของตัวเองขณะที่ยังมีชีวิต ขณะที่ฟิลิปปินส์ เปรู และ แอฟริกาใต้ เป็นประเทศที่มีพัฒนาการด้านสาธารณสุขมากที่สุด ส่วน ลาว เยเมน ชาด โซมาเลีย และเอธิโอเปีย เป็นประเทศที่มีสถิติย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มชาติกำลังพัฒนา 55 ประเทศ

 

          นายเดวิด โอต รองประธานมูลนิธิ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์สามารถลดอัตราการตายของเด็กถึงครึ่งหนึ่ง นับแต่ปี 2533  แต่เด็กยากจนฟิลิปปินส์มีโอกาสไม่ได้รับการดูแลสุขภาพมากกว่าเด็กฐานะร่ำรวยถึง 3.2 เท่า ขณะที่เด็กเปรูมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าเด็กที่มีฐานะร่ำรวย 7.4 เท่า

 

          รายงานระบุว่า การใช้เครื่องมือราคาถูกและความรู้ที่มี  สามารถรักษาชีวิตเด็กได้กว่า 6 ล้านคนจาก 9.7 ล้านคน ที่ต้องเสียชีวิตจากโรคที่สามารถป้องกันได้ง่าย อาทิเช่น การใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งมีราคาไม่ถึง 30 เซนต์ ในการรักษาโรคปอดอักเสบ และการใช้เกลือ น้ำตาล และ โพแทสเซียมในการรักษาโรคท้องร่วง

 

          เซฟ เดอะ ชิลเดรน แนะนำให้เพิ่มงบประมาณด้านสาธารณสุขเบื้องต้น และลงทุนสร้างเครือข่ายเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชนที่สามารถให้ความรู้แก่ชาวบ้านเกี่ยวกับสุขอนามัยที่ดี

 

          ในวันเดียวกัน จีนเผยว่าได้ลงโทษแพทย์และเจ้าหน้าที่ 10 ราย ภายหลังปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 หรือ อีวี 71 ที่ทำให้เด็กเสียชีวิต 26 ราย และมียอดการติดเชื้อทั่วประเทศ 11,905 ราย

 

          การระบาดของเชื้อไวรัสส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขประกาศเตือนภัยทั่วประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

 

          ล่าสุดเวียดนามระบุว่า ปีนี้มีผู้ติดเชื้อโรคมือ เท้า ปาก จากไวรัสอีวี 71 ราว 400 ราย ขณะที่ทั้งปีมีรายงานการเป็นโรคมือ เท้า  ปาก  2,000 ราย แต่ ดร.ฌอน โทบิน แห่งองค์การอนามัยโลก (ฮู) ระบุว่า การติดเชื้อในเวียดนามและจีนไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

                                                                                                            update 07-05-51