รวมพลังแกนนำเด็กเยาวชนสู่การเป็นจิตอาสา
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
พม. จัดงาน “รวมพลังแกนนำเด็กและเยาวชนมุ่งสู่การเป็นแกนนำจิตอาสาในชุมชนป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น” สร้างการตระหนักรู้ และสร้างจิตสำนึกเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “รวมพลังแกนนำเด็กและเยาวชนมุ่งสู่การเป็นแกนนำจิตอาสาในชุมชนป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น” พร้อมทั้งกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ทิศทางการขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน” จากนั้น นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน มุ่งสู่การเป็นแกนนำจิตอาสาในชุมชน” โดยมีประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัด อำเภอ และเขต ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้ดำเนินงานด้านเด็กและเยาวชน จำนวนทั้งสิ้น 1,000 คน เข้าร่วมโครงการฯ ณ โรงแรมอะเดรียติค พาเลซ กรุงเทพฯ
พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 กำหนดให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนมิติต่าง ๆโดยมีสภาเด็กและเยาวชนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศร่วมกันสนับสนุนให้เกิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในด้านต่างๆ
ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย ดย. จึงได้จัดโครงการ “รวมพลังแกนนำเด็กและเยาวชนมุ่งสู่การเป็นแกนนำจิตอาสาในชุมชนป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องจิตอาสา ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และการสร้างจิตสำนึกเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และเพื่อสร้างแกนนำจิตอาสาพัฒนาชาติ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัด อำเภอ และเขต ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยรวมทั้งผู้ดำเนินงานด้านเด็กและเยาวชน จำนวนทั้งสิ้น 1,000 คน โดยโครงการจัดขึ้นระหว่างวัน 21 – 24 พ.ย. 2561 ณ โรงแรมอะเดรียติค พาเลซ กรุงเทพฯ รัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล
สำหรับกิจกรรมมีดังนี้ 1) การให้องค์ความรู้เด็กและเยาวชน และผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนในประเด็น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติกับผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน สิทธิเด็กกับบทบาทสภาเด็กและเยาวชน และการเสริมสร้างเยาวชนกับการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นและบทบาทการดำเนินงานโครงการเยาวชนไทยหัวใจใสสะอาด 2) การแบ่งกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกันของเด็กและเยาวชน และ 3) การเข้าเยี่ยมคารวะประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสภาเด็กและเยาวชนในทุกระดับ รวมถึงข้อคิดเห็นของเด็กและเยาวชนในการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน
พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า กระทรวง พม. โดย กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันเป็นแผนฉบับที่ 2 ดำเนินการในปี 2560 – 2564 ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และเตรียมความพร้อมเด็กและ เยาวชนสู่การเป็นพลเมืองในยุค Thailand 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล โดยแผนดังกล่าวจะเป็นแนวทางให้ภารกิจตามกฎหมายส่งเสริมการพัฒนาเด็กฯสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนที่สำคัญ ประกอบด้วย 1) การพัฒนาศักยภาพและสร้างภูมิคุ้มกันเด็กและเยาวชน 2) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ 3) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน 4) การส่งเสริมบทบาทและระดมความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการพัฒนาเด็กและเยาวชน 5) การพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการในการพัฒนาเด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ กระทรวง พม.และผู้แทนเด็ก เยาวชนจากสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะกรรมการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ยังมีหน้าที่ในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ส่งเสริมสนับสนุนให้สภาเด็กและเยาวชน ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ สร้างเครือข่ายเด็กและเยาวชน ในพื้นที่เพื่อเป็นแกนนำในการป้องกัน แก้ไข และเฝ้าระวังปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
“ทิศทางการขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชนดังกล่าว ที่ถูกกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานในแต่ละเรื่อง จะเกิดเป็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ต้องอาศัยความเข้าใจ การเห็นความสำคัญ และความร่วมมือจากเด็กและเยาวชนทุกคน รวมถึงภาคีหน่วยงานด้านเด็กและเยาวชนทุกภาคส่วนทั้งในและนอกประเทศที่ร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน กระทรวง พม. มีความมุ่งหวังว่าทิศทางการดำเนินงานที่ดังกล่าว จะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนมีความพร้อมในการพัฒนาตัวเอง สังคม และประเทศชาติต่อไป” พล.อ.อนันตพร กล่าว