รณรงค์ ‘รอมฎอนเลิกบุหรี่’
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ผู้นำศาสนาและชุมชนปัตตานีร่วมรณรงค์…รอมฎอนเลิกบุหรี่
ปัตตานี นับเป็นจังหวัดที่มีอัตราการสูบบุหรี่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ จากข้อมูลสถานการณ์การบริโภคยาสูบ รายจังหวัดพบว่า ในปี 2557 จังหวัดปัตตานีมีอัตราการสูบบุหรี่ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 28% เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ และมีอัตราการสูบบุหรี่ของเพศชายอายุ 15 ปีขึ้นไป สูงถึง 57% นอกจากนี้ ยังพบรายงานการวิจัยการประเมินสถานการณ์ยาสูบจังหวัดปัตตานีเพื่อการเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาลัยเขตปัตตานี โดยศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ ปี 2556 สุ่มตัวอย่างประชากรในพื้นที่จำนวน 1,762 ราย พบว่า อายุเฉลี่ยที่เริ่มสูบบุหรี่อยู่ที่ 17 ปี และ พบอายุต่ำสุดที่เริ่มสูบคือ 7 ปี
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เครือข่ายองค์กรงดเหล้าและบุหรี่จังหวัดปัตตานี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และโครงการควบคุมยาสูบโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมผู้นำศาสนาอิสลาม ผู้นำชุมชน แกนนำขับเคลื่อนงานและผู้รับผิดชอบงานควบคุมการบริโภคยาสูบ จึงร่วมกันรณรงค์ "ให้รอมฎอน…เป็นจุดเริ่มต้นในการเลิกบุหรี่"
น.พ.อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เล่าว่า จากการตรวจคนไข้ มากว่า 20 ปีพบว่าคนไข้ที่ มีปัญหาและเสียชีวิตเร็วที่สุดคือคนไข้ที่สูบบุหรี่ เพราะปอดอาการหนัก โรคของบุหรี่ไม่เหมือน เชื้อโรคต้องใช้เวลาสักระยะถึงจะมีอาการ คนปัตตานีสูบบุหรี่สูงเป็นอันดับสามของประเทศ จากงานวิจัยพบว่า ผู้ชายปัตตานี 100 คน สูบบุหรี่ถึง 60 คน และเริ่มเพิ่มมากขึ้นในเยาวชน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่ ยาเสพติดอื่นๆ จึงร่วมกับสสส.เพื่อเป็นฟันเฟืองเชื่อมประสานเครือข่ายในพื้นที่ให้เห็นความสำคัญของการเลิกบุหรี่ โดยใช้รอมฏอนเป็นเดือนสำคัญในการเริ่มต้นของการเลิกบุหรี่
นางสรินฎา ปุติ อาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เล่วว่า จากการทำวิจัยเรื่องบุหรี่ใน จ.ปัตตานี มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบันพบว่า หากจะทำให้การติดบุหรี่เป็นศูนย์เป็นเรื่องท้าทายมากกับจ.ปัตตานี จากการสัมภาษณ์เชิงลึกและสนทนากลุ่มจำนวน 109 คน จากอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น กรรมการมัสยิดที่สูบบุหรี่ ได้รับรู้ว่า สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้สูบบุหรี่คือ เหตุการณ์ สถานที่ และเวลา รวมทั้งให้บุหรี่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ส่วน 66%เห็นว่าบุหรี่เป็น สิ่งฮาราม ต้องห้าม
"สิ่งที่จะทำให้เลิกบุหรี่ได้คือ ตัวเอง ภรรยา ลูก และคนรัก บรรทัดฐานทางศาสนามีผลอย่างมาก ต่อความหมายของการสูบบุหรี่ ผู้นำศาสนาจึงเป็นตัวขับเคลื่อนในการเปลี่ยนแปลงให้เกิดการเลิกสูบบุหรี่จึงสามารถนำไปออกแบบในการเลิกสูบบุหรี่ ในชุมชนต่างๆได้"
สำหรับการขับเคลื่อนโดยใช้โอกาสรอมฎอนเป็นจุดเริ่มต้นของการเลิกบุหรี่ รศ.ดร.มณฑา เก่งการพานิช จากมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการการควบคุมยาสูบโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เล่าว่า ตลอดช่วงเดือนรอมฎอนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการชวนให้คนจ.ปัตตานีเลิกบุหรี่ โดยให้ชุมชนมี นโยบายคือ สถานที่สาธารณะในชุมชนปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย และร้านค้าไม่จำหน่ายให้เด็ก ชุมชนปฏิบัติตามกฎหมายยาสูบ ลด ละ เลิกการบริโภคยาสูบและบุคคลต้นแบบ มีนโยบายและมาตรการควบคุมยาสูบในชุมชน พัฒนาระบบการบริการให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย มีเครื่องตรวจปอดสำหรับคนสูบบุหรี่ โดยตั้งเป้าหมายร่วมกันว่า จ.ปัตตานี จะต้องมีอัตราการสูบลดลงในปี 2568 คือเหลือ 15% สิ่งสำคัญจึงต้องทำให้ชุมชนมีส่วนร่วม ผู้นำร่วมมือ การประยุกต์ใช้ทุนทางวัฒนธรรมชุมชนโดยใช้ศาสนาเข้ามาร่วม โดยให้รอมฏอนเป็นโอกาสในการฟื้นคืนสุขภาพที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นละ ละ เลิกบุหรี่และพิเศษสุดสำหรับชีวิตของทุกคน
นายอับดุลลาวัลณ์ มามะ กรรมการมัสยิดดารุลอามาน บ้านชามู ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี บอกว่า "ปกติสูบ ทุกวัน เวลาไปเจอเพื่อน สูบทั้งใบจากและบุหรี่ซอง เป็นไปตามอัตโนมัติ อดใจไม่ได้ พอเดือนรอมฏอนเหลือวันละ 1 ม้วน และตั้งใจ ว่าจะเลิกให้ได้"
นายรอเซะ มะเซ็ง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านบางปลาหมอ ต.รูสะมิแล อ.เมืองจ.ปัตตานี บอกกล่าว ถึงความสำเร็จในการเลิกบุหรี่ ของชาวบ้านบางปลาหมอ และตั้งใจเลิกอีกในเดือนรอมฏอนนี้ว่า "ก่อนหน้านี้ที่มีโครงการงดสูบบุหรี่ของ สสส.ลงมา มีชาวบ้านเข้าร่วมโครงการและเลิกได้เด็ดขาด 10 คน เมื่อวันงดสูบบุหรี่โลกที่ผ่านมาได้พาไปเป็นบุคคลต้นแบบการเลิกบุหรี่ที่ห้างบิ๊กซี ปัตตานี ในเดือนรอมฏอนคนที่คิดเลิกสูบบุหรี่ก็จะเลิกได้เพราะกลางวันสูบไม่ได้ จะพูดคุยหลังละหมาดทุกเวลา เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านมารวมตัวกัน พูดให้เขาฟังถึงพิษของบุหรี่ และมีคนพูดว่า ตั้งใจจะเลิกให้ได้ในเดือนรอมฏอนนี้ เป็นเรื่องที่น่าดีใจที่สุด"
นายมะรุดิง สือรี อิหม่ามมัสยิดกาโต ต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี ผู้เคย สูบบุหรี่และเลิกเด็ดขาด เล่าว่า "ศาสนาและวิทยาศาสตร์ต้องไปด้วยกัน ต้องมีความตั้งใจและแรงขับ ก่อนหน้านี้เมื่อสอนตาดีกาครบ 40 นาทีก็ดูดบุหรี่ ลูกเห็นและเล่นกับเพื่อนๆ โดยเอากิ่งไม้มาสูบเหมือนที่เราสูบ น้ำตาไหล คิดว่าต้องเลิกและเลิกได้จริง ความตั้งใจจริงจึงจะทำได้สำเร็จ เริ่มต้นในเดือนรอมฏอนเป็นสิ่งที่ดีและจะช่วยบอกกล่าวถึงโทษของบุหรี่แก่พี่น้องในชุมชน"
ตลอดช่วงเวลาแห่งเดือนพิเศษ รอมฏอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการลด ละ และเลิกเจ้าภัยร้าย…บุหรี่ นับเป็นความดีแก่ตนเองและคนรอบข้างอย่างน่าชื่นใจ