รณรงค์แจกถุงยางอนามัยรับ “วาเลนไทน์”

กรมควบคุมโรครับมือ “วาเลนไทน์” แจกถุงยางอนามัยทั่วประเทศ เผย พบเด็กมัธยม-อาชีวะกว่า 17% มีคู่นอนมากกว่า 1 คน แถมกว่าครึ่งไม่สวมถุงยางอนามัย ย้ำการป้องกันไม่ได้ยุยงให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ หนทางที่ดีคือพ่อแม่ต้องสอนลูกสาวอย่าอยู่กับคนรักสองต่อสองในที่ลับตา รู้จักปฏิเสธ ส่วนลูกชายต้องให้เกียรติผู้หญิง   

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการสำรวจเด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาและระดับอาชีวศึกษา พบว่า ในจำนวนเด็ก 100 คน มีอยู่ 17 คนที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน และในจำนวน 17 คนนี้ยังพบว่ามีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่สวมถุงยางอนามัย แสดงว่าอีกครึ่งหนึ่งของเยาวชนเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี กามโรค ซิฟิลิส และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เยอะมาก 

 “เมื่อก่อนเราเคยถามเด็กว่ามีเพศสัมพันธ์เมื่อไหร่ ตรงนี้อาจจะไม่สำคัญเท่ากับว่าตอนนี้เขามีคู่นอนมากกว่า 1 คนแล้ว ซึ่งมากถึง 17% เพราะฉะนั้นถ้าผู้ปกครองไม่รู้จักสอนลูก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกสาวให้รู้จักป้องกันตัวจะเป็นอันตรายมาก” นพ.พรเทพกล่าว และว่า ทางออกที่ดีที่สุดถ้าหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้จริงๆ ก็ต้องรู้จักใช้ถุงยางอนามัย ยืดอกพกถุงทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทั้งนี้ ตนไม่ได้พูดถึงเรื่องฟรีเซ็กซ์ แต่การใช้ถุงยางจะช่วยแก้ปัญหาได้เยอะ จึงอยากฝากทุกคนให้ช่วยดูแลลูกหลานของเรา ประเทศไทยยังอยู่อีกนาน ถ้าไม่ช่วยกัน เราก็จะอยู่ในสังคมที่มีแต่ความทุกข์ถนัด ไม่มีใครดูแลใคร ต่างคนต่างเอาตัวรอด ลูกหลานก็เติบโตมามีปัญหาทางสังคม

นพ.พรเทพ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคได้รณรงค์เรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (save sex) อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว แต่ในโอกาสวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้จะมีการรณรงค์เรื่องการใช้ถุงยางอนามัยตามโรงเรียนต่างๆ และมีถุงยางแจกที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แต่ไม่อยากให้ใช้การรณรงค์นี้เป็นการรณรงค์หลัก เพราะการรณรงค์หลักยังอยู่ในเรื่องการป้องกัน การป้องกันการสร้างโอกาสไปมีเพศสัมพันธ์กันตามม่านรูด ตามที่ลับตาคน

“การดูแล ตรงนี้ผู้ปกครองและสังคมต้องช่วยกันแก้ปัญหา ถ้าปล่อยให้เยาวชนแก้ปัญหาเอง หรือไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนในสิ่งที่ถูก จะทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอีกมาก และต้องสอนกันตลอด ไม่ต้องรอให้ถึงวันวาเลนไทน์ก็ต้องสอนลูกสาวว่าต้องไม่ไปกับผู้ชายสองต่อสอง แต่ควรไปเป็นกลุ่มเสมอ เพื่อปิดโอกาสการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ต้องสอนให้รู้จักการปฏิเสธ การต่อรอง ส่วนลูกชายก็ต้องให้เกียรติผู้หญิง ดังนั้นในโอกาสวันวาเลนไทน์นี้ ถ้าลูกมาขออนุญาตไปเที่ยวกับแฟนก็ต้องอนุญาตให้ไปได้เป็นกลุ่ม ไม่ปล่อยให้ไปสองต่อสอง ไม่ไปในที่ลับตาคน”

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า ถ้ากลับไปดูจุดเริ่มต้นของวันวาเลนไทน์ คือความรักบนความเมตตา และความเมตตาเริ่มต้นจากรักและดูแลตัวเราเองได้ดี มีความรักเผื่อแผ่ให้กับคนที่เรารัก และกับทุกๆ คนที่อยู่รอบตัว ทั้งนี้ ถ้าคนเรารักตัวเองแล้วจะเริ่มมองเรื่องการรักคนอื่นในมุมมองที่เอื้อเฟื้อและเติมเต็มซึ่งกันได้ และถ้าอีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นคนที่รักตัวเองด้วยเหมือนกัน มาเจอกัน ก็จะไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันพ่อแม่จะต้องเข้าใจลูก เลือกที่จะเป็นเพื่อนพูดคุย แลกเปลี่ยนกัน จะมีส่วนในการช่วยให้ลูกปัญหาได้ แต่ถ้าไปสั่งว่าไม่เอาอย่างนั้น ไม่เอาอย่างนี้ โดยส่วนใหญ่เด็กจะหลบเลี่ยง ยิ่งทุกวันนี้เด็กมีชีวิตที่เป็นอิสระมากขึ้น และการบังคับจึงเป็นไปได้ยาก

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกัน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว พ่อแม่ก็ต้องเป็นเพื่อนกับเขา เพราะถ้าปล่อยให้เด็กแก้ปัญหาก็คิดได้เท่าที่ตัวเองจะสามารถทำได้ ปรึกษาเพื่อนก็ได้แค่นั้น อาจจะไม่ได้ทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าเขาพลาดไปแล้ว พ่อแม่ต้องคอยเป็นเพื่อนรับฟัง และใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่มาช่วยหาทางออก เพราะการที่ครอบครัวใดก็ตามที่พ่อแม่เข้ามามีส่วนร่วม ท้ายที่สุดแล้วจะมีทางเลือกที่ดีกว่าให้กับลูก ที่สำคัญจะต้องมองให้ยาวว่าชีวิตเขาไม่ได้จบแค่วันนี้ ถ้าเขากลับมายืนได้อีกครั้งก็ยังมีโอกาสที่จะเดินต่อไปข้างหน้า

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

Shares:
QR Code :
QR Code