ย้ำมาตรการล้างเชื้อหวัดนก เร่งพ่นยาคุลม 9 จ.

ปศุสัตว์รับลูก เชื่อควบคุมสถานการณ์ได้

 

ย้ำมาตรการล้างเชื้อหวัดนก เร่งพ่นยาคุลม 9 จ.

          เสธ.หนั่น” สั่งย้ำมาตรการรณรงค์กวาดล้างเชื้อโรคไข้หวัดนก กรมปศุสัตว์รับลูกปรับแผนพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมกันทุกจุดครอบคลุม 9 จังหวัดเสี่ยง ตลอด 6 เดือนเต็ม เชื่อส่งผลปริมาณเชื้อหวัดนกลดลง

 

          พลตรีสนั่น  ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจพบโรคไข้หวัดนกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2551 ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม  จังหวัดสุโขทัย  และวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 ที่อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี

 

          ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโดยการทำลายสัตว์ปีก ณ จุดเกิดโรค และสัตว์ปีกที่อยู่รอบบริเวณจุดเกิดโรค พร้อมทั้งพ่นยาฆ่าเชื้อโรคควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกเข้า ออกพื้นที่ควบคุม  ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ของโรคได้

 

          ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้ทบทวนตรวจสอบ และวิเคราะห์สถานการณ์ของโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เขตปศุสัตว์ที่  6 แล้วพบว่า พื้นที่นี้มีปัจจัยความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคสูง  จากการที่มีการพบการระบาดต่อเนื่องมาหลายรอบแล้ว  ประกอบกับข้อมูลการติดตามเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่อง 

 

          พบว่า พื้นที่นี้มีสัตว์ปีกป่วยตายสูงมากกว่าพื้นที่อื่น โดยเฉพาะในกลุ่มไก่พื้นเมือง อีกทั้งมีการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกหลายประเภท  เช่น  ไก่ชน  เป็ดไล่ทุ่ง  นกอพยพ 

 

          ดังนั้น  จากองค์ความรู้ทางวิชาการ  และการบริหารจัดการควบคุมโรคที่เพิ่มพูนขึ้น  กรมปศุสัตว์จึงปรับรูปแบบมาตรการทำลายเชื้อในพื้นที่ใหม่  จากเดิมที่เคยปฏิบัติในแต่ละจังหวัดแต่ละช่วงเวลา  เป็นการพ่นยาฆ่าเชื้อพร้อมกันทุกหมู่บ้าน  ตำบล อำเภอ  จังหวัด  ในเวลาเดียวกันครอบคลุมพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย  อุทัยธานี  พิษณุโลก  นครสวรรค์  พิจิตร  กำแพงเพชร  เพชรบูรณ์  อุตรดิตถ์  และตาก  เพื่อลดปริมาณของเชื้อโรคที่อยู่ในพื้นที่ให้เหลือน้อยที่สุด 

 

          โดยจะดำเนินการต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา  6  เดือน  เดือนละ  6  วัน  ตั้งแต่เดือนธันวาคม  2551  ถึงเดือนพฤษภาคม  2552  ในครั้งแรกจะเริ่มวันที่  15  ถึง  วันที่  20  ธันวาคม  ศกนี้  ซึ่งกรมปศุสัตว์จะได้มีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจากการดำเนินงานพ่นยาฆ่าเชื้อพร้อมกันทุกพื้นที่ในเวลาเดียวกัน  จะทำให้ตัวเลขสัตว์ปีกป่วยตายลดลง

 

          “มาตรการที่จะดำเนินการนี้อาศัยกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  อาสาสมัครสาธารณสุข  อาสา ปศุสัตว์และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก  โดยกรมปศุสัตว์จะดำเนินการกิจกรรมเคาะประตูบ้านเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ปีกทุกครัวเรือนไปพร้อมกัน  เพื่อตรวจเยี่ยมสอบถามภาวะโรคในสัตว์ปีก  ตลอดจนการให้คำแนะนำการเลี้ยงสัตว์ปีกที่ถูกวิธี  โดยกรมปศุสัตว์ได้ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  สาธารณสุขจังหวัด  กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงมหาดไทย  กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ปีกและพันธุ์พืช  ในการร่วมดำเนินงานกับเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์เข้าพื้นที่ทุกหมู่บ้าน  หากตรวจพบสัตว์ปีกป่วยตายหรือมีประวัติสัตว์ปีกป่วยตาย  จะดำเนินการสอบสวนโรคทางระบาดวิทยาและดำเนินมาตรการควบคุมโรคทันที  พร้อมทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคโดยน้ำยาฆ่าเชื้อคุณภาพสูงในบริเวณพื้นที่เสี่ยง” พล.ต.สนั่น กล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย

 

 

update 15-12-51

Shares:
QR Code :
QR Code