ย่างเข้าสู่ปีที่ 9 สสส.เผยสิงห์อมควันลดกว่าล้าน

ซดเหล้าเฉลี่ยคนละ 45 ลิตรต่อปี

 ย่างเข้าสู่ปีที่ 9 สสส.เผยสิงห์อมควันลดกว่าล้าน

          สสส.อวดผลงาน 8 ปี สิงห์อมควันเลิกดูดกว่าล้านคน ยอดบุหรี่หดเกือบสองร้อยล้านซอง ห่วงวัยรุ่นหญิงดูดบุหรี่พุ่ง ริสูบตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 12 ขณะที่คนไทยซดเหล้าเหลือปีละ 45.7 ลิตรต่อคน ชูภาคีแรงสำคัญ เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 9 สกัดบุหรี่หนีภาษี-ปลอม เน้นงานเด็ก-เยาวชน อึ้งเด็กหลงผิดถูกส่งเข้าสถานพินิจวันละ 115 คน แถมเร่ร่อนอื้อ

 

          วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีการแถลง ก้าวสู่ปีที่ 9 สสส.ก้าวสร้าง ก้าวสุขโดยนพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า สสส.ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2544 และจะก้าวสู่ปีที่ 9 ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ซึ่ง สสส.ยึดหลักทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ทุกด้านที่เกี่ยวกับสุขภาวะ ในส่วนการควบคุมการบริโภคยาสูบ ปี 2550 คนไทยสูบบุหรี่ 9.45 ล้านคน ลดลงจากปี 2544 ถึง 1 ล้าน 8 หมื่นกว่าคน ยอดจำหน่ายบุหรี่ปี 2552 มี 1,790 ล้านซอง น้อยกว่าปี 2550 ถึง 168 ล้านซอง ชัดเจนว่า อัตราสูบ และซื้อบุหรี่โดยรวมจะลดในทุกเพศทุกวัยทุกภาค อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยปี 2550 พบว่า วัยรุ่นหญิง 13-24 ปี 3,093 คน พบสูบบุหรี่ 6.4% โดย 31.4% ของผู้สูบเริ่มสูบตั้งแต่อายุน้อยกว่า 12 จนถึงอายุ 13 ปี น่าห่วงว่าการสูบบุหรี่หญิงไทยที่ลดต่ำเหลือเพียง 1.6% อาจจะเพิ่มสูงในอนาคต

 

          นพ.สุภกร กล่าวต่อว่า ในปี 2551 คนไทยดื่มแอลกอฮอล์ลดลงเหลือ 45.7 ลิตรต่อหัวต่อปี จากปี 2550 ที่สูงถึง 51 ลิตร ลดค่าใช้จ่ายการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 4 พันล้านบาท แต่การสำรวจสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2550 พบผู้ดื่มแม้ลดลงจาก 16.2 ล้านคน ในปี 2549 แต่ยังดื่มอยู่เกือบ 15 ล้านคน โดยดื่มเบียร์มากที่สุด 69% สุราขาว 19.4% ทว่า แนวโน้มที่ดีคือ ค่านิยมดื่มในงานเทศกาลประเพณีลดลง จากการรณรงค์ทั่วประเทศ เช่น งดเหล้าเข้าพรรษา เทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ปลอดเหล้า การรับน้องด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงจาก 53.7% ในปี 2549 เหลือ 8.9% ในปี 2551 ขณะที่อุบัติภัยทางถนน มีผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่องจาก 14,063 ราย ในปี 2546 เหลือ 11,267 ราย ในปี 2551 ทั้งนี้ อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในวัยรุ่นและวัยแรงงาน ผู้บาดเจ็บถึง 1 ใน 3 อายุน้อยกว่า 20 ปี ปัจจัยสำคัญคือดื่มแล้วขับ รวมถึงไม่เคารพกฎจราจร นอกจากนี้ ในด้านการดูแลสุขภาพเครือข่ายคนไทยไร้พุง ทำให้ประชาชน 3 ล้านคน ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน มีทักษะในการควบคุมน้ำหนัก ในจำนวนนี้ 10% หรือ 3 แสนคน สามารถลดน้ำหนักให้เข้าสู่ภาวะปกติได้

 

          ผลของงานที่เกิดมาจากความร่วมแรงรวมใจของภาคี ที่สำคัญคือความตื่นตัวของประชาชนที่ ลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ซึ่ง สสส.และ ภาคีเครือข่าย ต้องทำงานเข้มข้นต่อไป เป้าหมายใหญ่ปี 2553-2555 คือ ป้องกันบุหรี่หนีภาษีและบุหรี่ปลอม ผลักดันให้เกิดบริการเลิกบุหรี่ไม่น้อยกว่า 1,000 แห่ง ทดแทนทุนอุปถัมภ์ของธุรกิจแอลกอฮอล์ ทั้งกิจกรรม ประเพณี วัฒนธรรม ระดับชาติ และท้องถิ่น ไม่น้อยกว่า 50 งาน รวมถึงกิจกรรมของนิสิต นักศึกษา และกลุ่มเป้าหมายอื่นอย่างน้อย 100 งาน สนับสนุนแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนที่จะลดการเสียชีวิตจากอุบัติภัยทางถนนลงครึ่งหนึ่งภายในทศวรรษหน้า งานอีกด้านที่สำคัญ คือ สนับสนุนโครงการโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบลที่รัฐบาลประกาศแล้ว 1,001 แห่งนพ.สุภกร กล่าว

 

          ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ รองผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า งานเด็กและเยาวชนเป็นหนึ่งเป้าสำคัญที่ สสส.จะเร่งดำเนินการ โดยปี 2551 มีเด็กถูกส่งเข้าสถานพินิจฯ 42,102 คน หรือวันละ 115 คน เด็กเร่ร่อนมีถึง 2 หมื่นคน ปี 2555 จะเพิ่มเป็น 3 หมื่นคน ต้องเน้นงานเชิงรุกสนับสนุนโครงการที่ให้ความสำคัญตรงไปที่เยาวชน ให้ทำกิจกรรมแบบ คิดเอง ทำเองรวมถึงสร้างความเข็มแข็งทางใจด้วยชุดพัฒนาทักษะชีวิตวัยรุ่น ที่ใช้ในโรงเรียนแล้ว 585 แห่ง และจะขยายเป็น 1,000 แห่ง สร้างพื้นที่นอกเวลาเรียนต้นแบบ 8 จังหวัด ส่งเสริมผลิตสื่อสร้างสรรค์ ขยายสถานีวิทยุเพื่อเด็กและครอบครัวให้ถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และสร้างเกราะกันโรค ให้คนไทยออกกำลังกาย จากผู้ออกกำลังเป็นประจำ 16 ล้านคน เป็น 18 ล้านคน สนับสนุนกิจกรรมและจัดพื้นที่ให้เอื้อต่อออกกำลังกายทุกกลุ่มวัย อาทิ สวนสาธารณะ สถานศึกษา นิคมอุตสาหกรรม ลานกีฬาชุมชน

 

          ในแต่ละปีมีผู้ร่วมงานหรือผู้รับทุน สสส.ไม่ต่ำกว่า 4 พันโครงการ แต่เราจะเข้าถึงผู้ร่วมงานหน้าใหม่ให้มากขึ้น โดยเปิดรับโครงการในพื้นที่ 4 ภาคทั่วประเทศ มุ่งการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ที่สุด ผู้รับทุนไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กร นักวิชาการ และไม่ต้องกังวลเรื่องการเขียนโครงการ ขอเพียงตั้งใจจริง สสส.จะร่วมกันพัฒนาโครงการกับเพื่อนร่วมสร้างสุขภาวะทุกคน และในปี 2553 ธนาคารโลกกับองค์การอนามัยโลก จะร่วมประเมิน สสส.โดยนำผลไปทำแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี อีกทั้งเน้นการมีส่วนร่วมสนับสนุนแก้ปัญหาในภาวะฉุกเฉิน เช่น กรณีไข้หวัด 2009 ที่ประสานมือให้ทุกหน่วยงานมาร่วมกันแก้วิกฤตทพ.กฤษดา กล่าว

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ astvผู้จัดการออนไลน์

 

 

 

update: 04-11-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code