ยูเอ็นเดย์รันคึกคักกิจกรรมครบวงจร
ปิดราชดำเนิน “ชวนขยับทั้งประเทศ”
มหกรรมวิ่ง “ยูเอ็นเดย์ รัน” คึกคัก นักวิ่งทั่วสารทิศแห่สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเกือบจะครบหนึ่งหมื่นคนตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว โดยเจ้าภาพใหญ่ สำนักงานกองทุกนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. เตรียมปิดถนนราชดำเนิน จัดกิจกรรมออกกำลังกายครบวงจรทั้งเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน แอโรบิก ฯลฯ ภายใต้นโยบาย “ชวนขยับ ทั้งประเทศ” ในเช้าตรู่วันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค.นี้
อ.ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการออกกำลังกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเตรียมการจัดมหกรรม “ยูเอ็นเดย์ รัน เฟสติวัล 2010″ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันจัดระหว่าง สสส. มูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (un escap) และผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ที่กำหนดจัดขึ้นในเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค. โดยมีจุดศูนย์กลางของงานอยู่ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน un escap ถนนราชดำเนินกลาง
สำหรับมหกรรมวิ่งยูเอ็นเดย์รันในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 65 ปี สหประชาชาติ และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนชาวไทยได้ตระหนักในสถานการณ์การคุกคามของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขและมีความสำคัญต่อการป่วย พิการ และเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจำนวนมาก ได้แก่ โรคหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต
กิจกรรมที่จะจัดขึ้นในงานนี้ จะอยู่ภายใต้คำขวัญ “ชวนขยับ ทั้งประเทศ” ประกอบด้วยการเดินเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กิโลเมตร วิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร การขี่จักรยานเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพรูปแบบต่างๆ ได้แก่ เต้นแอโรบิก ไท้เก๊ก ฯลฯ นอกจากนี้ยังจะมีกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอื่นๆอีกมากมาย
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านเสียค่าลงทะเบียน 100 บาท จะได้รับเสื้อที่ระลึกและเมื่อเข้าสู่เส้นชัยจะได้รับเหรียญที่ระลึกยูเอ็นเดย์รันที่ออกแบบอย่างสวยงามไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งงานนี้ตั้งเป้าที่จะดึงประชาชนมาออกกำลังกายไม่ต่ำกว่า 1.3 หมื่นคน ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครมาแล้วมากกว่าครึ่ง และคาดว่าจะเต็มจำนวนในไม่ช้า ดังนั้นผู้ที่สนใจก็ให้รีบติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาพันธ์ ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย โทร.0-2455-9149, 08-1658-4704 หรือเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.thaijoggingclub.net
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
update : 13-10-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : กิตติภานันทร์ ลีจันทึก