ยืนยัน “ไข้หวัดใหญ่” ในไทยระบาดตามฤดูกาล

ที่มา : เดลินิวส์


กรมควบคุมโรคเผย “ไทย-ฮ่องกง” อยู่ในช่วงระบาดไข้หวัดใหญ่ เป็นการระบาดตามฤดูกาล ระบุ ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ เผย ไทยป่วยแล้ว 6.7 หมื่นคน ตาย 10 คน 


ยืนยัน “ไข้หวัดใหญ่” ในไทยระบาดตามฤดูกาล thaihealth


พญ.วรยา เหลืองอ่อน ผอ.สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝน และหน้าหนาวจะเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัด ถือว่าเป็นการระบาดตามฤดูกาล เพียงแต่ว่าที่ฮ่องกงปีนี้ค่อนข้างระบาดมาก และมีผู้เสียชีวิตเยอะ ส่วนประเทศไทยมีผู้ป่วยแล้วประมาณ 6 หมื่นคน ถือว่าสถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง ยกเว้นกลุ่มเสี่ยงคือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น เพราะคนเหล่านี้เมื่อติดเชื้อแล้วจะทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้


เมื่อถามว่าสายพันธ์ที่ระบาดในฮ่องกงกับไทยแตกต่างกันหรือไม่ พญ.วรยา กล่าวว่า แต่ละพื้นที่ก็จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็เป็นการระบาดตามฤดูกาล ซึ่งไข้หวัดใหญ่หลักจะ มีสายพันธ์ เอช1 เอ็น1 (H1N1) ซึ่งแยกย่อยเป็นสายพันธ์ 2009 และอื่นๆ สายพันธ์เอช 3 เอ็น 2 (H3N2) ก็จะมีสายพันธ์แยกย่อยลงไปอีก รวมถึงไข้หวัดใหญ่สายพันธ์บี (B) ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่และขณะนี้องค์การอนามัยโลกก็ยังไม่การห้ามเดินทางเพราะโรคไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด เพียงแต่ว่าหากคนไทยเดินทางไปยังฮ่องกงช่วงนี้ก็ขอให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการไปพื้นที่ที่มีคนอยู่เยอะๆ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ส.ค. 2560 พบผู้ป่วย 67,233 ราย เสียชีวิต 10 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 15-24 ปี  รองลงมา 10-14 ปี และ 25-34 ปี ตามลำดับ  จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ระยอง กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ จันทบุรี และลำพูน ในสัปดาห์นี้ได้รับรายงานพบผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เป็นกลุ่มก้อน 2 เหตุการณ์ในกรุงเทพมหานคร และที่จังหวัดตากมีผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่เสียชีวิต 2 ราย


ขณะเดียวกันทางกรมควบคุมโรคก็ได้มีการพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์โดยคาดว่ามีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น จึงขอแนะนำประชาชนให้ดูแลตนเอง โดยปิดปาก ปิดจมูกเมื่อมีอาการไอจามหรือใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ และสบู่ เลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม และการอยู่ในพื้นที่แออัด หากป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดทำกิจกรรม เพื่อให้หายป่วยได้เร็วขึ้นและไม่ไปแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่น ถ้ามีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ มีน้ำมูก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน หอบหืด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีภาวะอ้วน ให้รีบพบแพทย์  ส่วนบุคคลทั่วไป ควรทานยาลดไข้ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

Shares:
QR Code :
QR Code