“ยืดกล้ามเนื้อ” คลายเครียดน้ำท่วม เคล็ด (ไม่) ลับขจัดเหล่าอโรคยา
จากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั้งในพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และต้องกลายมาเป็นผู้อพยพที่ต้องมาอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยต่างๆ โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน อีกทั้งบ้านเรือน ยานพาหนะ ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ก็ต้องมาได้รับความเสียหาย แม้จะป้องกันไว้อย่างดี แต่ก็ยากที่จะเหนี่ยวรั้งความแรงของกระแสน้ำไว้ได้ เหล่านี้จึงเป็นจุดกำเนิดของความเครียดที่เกิดขึ้นกับผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งนานวันก็ยิ่งจะทวีคูณเพิ่มมากขึ้น
รศ.เจริญ กระบวนรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการออกกำลังกาย และกีฬาเพื่อสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และอาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้คำแนะนำวิธีคลายเครียดที่ทำได้อย่างง่าย ไม่ว่าผู้ประสบภัยจะอยู่ที่ศูนย์พักพิงฯ หรืออยู่ที่บ้าน ก็สามารถออกกำลังกาย ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นการเล่นกีฬาชนิดต่างๆ เพียงแค่มีการยืดกล้ามเนื้อ ก็จะทำให้ความเครียดผ่อนคลายลงได้
“การออกกำลังกาย” ถือเป็นส่วนสำคัญของชีวิตที่จะต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกาย หากนั่งหรือนอน และหมกมุ่นอยู่กับข่าวน้ำท่วมเพียงอย่างเดียว ก็จะเป็นการฝืนธรรมชาติ และทำให้เกิดความเครียดตามมา แม้ศูนย์พักพิงฯ หลายแห่งจะเชิญนักจิตวิทยาเข้ามาให้คำแนะนำ และคำปรึกษากับผู้อพยพ แต่ก็เป็นการคลายเครียดชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น การออกกำลังกายจะช่วยให้ผู้อพยพได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และไม่หมกหมุ่นอยู่กับข่าวน้ำท่วมมากเกินไป ซึ่งก็จะช่วยผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้มาก
การยืดกล้ามเนื้อ ทำได้ง่าย โดยเริ่มต้นจากการลุกขึ้นและเหวี่ยงแขน สลับกับการบิดตัวไปทางซ้ายและขวา ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อ และช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นการผ่อนคลายความเครียดด้วย นอกจากนี้อาจจะยกแขนเหยียดขึ้นเหนือศรีษะ โดยแขนวางไว้ข้างหลังใบหู ซึ่งก็จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายที่หลังและบ่า หรืออาจจะนั่งเหยียดขาไปข้างหน้า โดยนั่งพิงกับกำแพง จากนั้นยกขาขึ้นทีละข้างช้าๆ ก็จะได้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หรืออาจจะลุกขึ้นยืนแล้วย่อตัวลงเหมือนนั่งเก้าอี้ ก็จะช่วยป้องกันแก้ปวดเข่าได้
ขณะเดียวกันหากผู้อพยพมีผ้าเช็ดตัว หรือผ้าขาวม้า ก็สามารถนำมาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยืดกล้ามเนื้อได้ โดยจับปลายผ้าเช็ดตัวทั้งสองด้าน แยกแขนออกแล้วยกขึ้นยกลงเหมือการยกน้ำหนัก ก็จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวไหล่มีความแข็งแรงมากขึ้น หรืออาจจะจับผ้าเช็ดตัวทั้งสองด้านแล้วแยกแขนออก จากนั้นโยกเอวไปทางซ้ายและขวาสลับกัน ก็จะเป็นการบริหารเอวให้มีความกระชับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เหล่านี้เป็นท่าเบื้องต้น โดยควรจะเริ่มจากการทำน้อยครั้งก่อน แล้วจึงเพิ่มขึ้นตามความสามารถของตนเอง
“คนที่เครียดมากๆ จะเกิดอาการตึงที่กล้ามเนื้อ จากนั้นจะรู้สึกปวดโดยไม่รู้สาเหตุ และพอปล่อยไว้เนิ่นนานก็จะทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น เกิดข้อยึด ข้อเกร็ง โครงกระดูกเปราะบาง และกระดูกพรุน ดังนั้นการยืดกล้ามเนื้อจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อย่างดี และห่างไกลจากโรค ซึ่งสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องเสียเงิน และทำได้ทุกที่ทุกเวลา”รศ.เจริญ กล่าว
ทั้งนี้ รศ.เจริญ ยังฝากไปยังเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พักพิงฯ ให้มีการแนะนำ ให้ข้อมูล และเป็นผู้นำในการออกกำลังกายด้วยการยืดกล้ามเนื้อ เพื่อให้ผู้อพยพได้ปฏิบัติตาม จากนั้นเมื่อเกิดความเคยชิน และรู้ว่าเกิดประโยชน์อย่างไร ผู้อพยพก็จะปฏิบัติเองโดยอัตโนมัติ และเมื่อได้ทำอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกเครียดก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายลง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พักพิงฯ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ใช่ให้ผู้อพยพมาอยู่รวมกัน และไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะความเครียดมันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และทำให้สุขภาพทรุดโทรมตามลงไปด้วย
ด้านนางรัชฎา แก้วพุกก์ หนึ่งในผู้ประสบภัยชาว จ.ปทุมธานี ยอมรับว่า รู้สึกเครียดมากหลังจากที่น้ำเริ่มเข้ามาถึงบ้าน เพราะเราไม่สามารถป้องกันได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้นำกระสอบทรายมากั้นไว้ และเฝ้าดูน้ำตลอดเวลา จึงได้แต่ทำใจยอมรับกับเรื่องนี้ และไม่หมกหมุ่นอยู่กับข่าวน้ำท่วมมากเกินไป เพราะในช่วงแรกจะดูแต่ข่าว ปรากฏว่ายิ่งทำให้เครียดมากขึ้น ดังนั้นหากศูนย์พักพิงฯ มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การฟังเพลง หรือร้องเพลง ก็คงจะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อย่างดี ซึ่งส่วนตัวนั้นปกติก็เป็นคนที่ชอบออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้ว เพราะทำให้สุขภาพแข็งแรง และห่างไกลจากโรค จึงรู้สึกเห็นด้วยหากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พักพิงฯ จะเป็นผู้นำในการออกกำลังอย่างง่ายๆ ให้กับผู้ประสบภัยได้ปฏิบัติตาม แทนที่จะปล่อยให้ผู้ประสบภัยนั่งๆ นอนๆ อยู่เฉย ซึ่งจะทำให้ยิ่งเครียดมากขึ้น
การยืดกล้ามเนื้อ จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ขอเพียงแค่ทุกคนมีใจที่จะทำอย่างจริงจัง และทำอย่างต่อเนื่อง เชื่อแน่ว่าความเครียดที่มุ่งจะมาทำร้ายทุกคนในสภาวะเช่นนี้ คงไม่กล้าเข้าใกล้อย่างแน่นอน อีกทั้งการออกกำลังกายยังช่วยให้ทุกคนห่างไกลโรคอีกด้วย ซึ่งเมื่อวิกฤติผ่านไปทุกคนจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อที่จะดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต
ที่มา : สำนักข่าว สสส.