ยอดเจ็บ-ตายอุบัติเหตุสูง ไม่ควรอุ้มเด็กนั่งเบาะหน้า

 

อุ้มเด็ก

 

กระทรวงสาธารณสุข เผยจำนวนผู้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรยังพุ่งสูงในปี 2553 พบเกือบ 80,000 ราย เสียชีวิต 4,531 ราย 1 ใน 10 เป็นผู้ใช้รถตู้ ปิกอัพ และรถโดยสารประจำทาง คาดเข็มขัดนิรภัยต่ำมากเพียงร้อยละ 11 เตือนไม่ควรอุ้มเด็กเล็กนั่งเบาะหน้า เพราะเสี่ยงอันตรายจากถุงลมนิรภัย

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิต ที่เกิดจากอุบัติเหตุการจราจรขนส่งเป็นจำนวนมาก สาเหตุส่วนใหญ่ คือ การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ทั้งหมวกกันน็อคในกลุ่มผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ และเข็มขัดนิรภัยในผู้ที่ใช้รถยนต์ จากการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปของกระทรวงสาธารณสุข 33 แห่ง ทั่วประเทศ พบว่าตั้งแต่ พ.ศ. 2538 จนถึง พ.ศ. 2553 อุบัติเหตุจราจรเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของการบาดเจ็บทั้งหมด

ตลอดปี พ.ศ. 2553 มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรทั้งหมด 79,097 ราย เสียชีวิต 4,531 ราย ร้อยละ 90 ที่เสียชีวิต เกิดจากรถจักรยานยนต์ และ 1 ใน 10 ของผู้บาดเจ็บ เป็นผู้ใช้รถยนต์ทุกประเภทและไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยมีจำนวน 7,661 ราย สัดส่วนการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ใช้รถปิกอัพสูงถึงร้อยละ 63 รองลงมา คือ รถยนต์ส่วนบุคคลและรถแท็กซี่ร้อยละ 26 รถตู้ร้อยละ 8 รถโดยสารประจำทางร้อยละ 2 โดยพบว่าผู้ขับคาดเข็มขัดนิรภัยเพียงร้อยละ 28 ส่วนผู้โดยสารคาดเพียงร้อยละ 11 นับว่าต่ำมาก ยังพบด้วยว่ามีผู้โดยสารที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย หลุดออกจากห้องโดยสาร

นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ยังมีข้อมูลการศึกษาที่สำคัญของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียในปี 2549 พบว่า ผู้หญิงคาดเข็มขัดนิรภัยน้อยกว่าผู้ชาย และคาดในเวลากลางคืนน้อยกว่ากลางวัน โดยผู้ที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย มีอัตราการบาดเจ็บรุนแรงมากกว่าผู้ที่คาดถึงร้อยละ 68 มีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่า 1.5 เท่า หรืออาจพูดได้ว่าในผู้โดยสารรถยนต์ทุกๆ 100 คน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถ้าคาดเข็มขัดนิรภัย จะสามารถลดการเสียชีวิตได้ 35 คน ซึ่งถือว่าคุ้มค่าต่อการคาดเข็มขัด ซึ่งขณะนี้ กรมการขนส่งได้กำหนดให้รถยนต์ ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2554 เป็นต้นไป ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่ทุกที่นั่งผู้โดยสาร

          ที่น่าห่วงอีกประการหนึ่ง ในกรณีที่แม่อุ้มเด็กและนั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับ หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เด็กอาจได้รับอันตรายจากถุงลมนิรภัย ซึ่งถุงลมนิรภัยจะระเบิดกางออกโดยปฏิกิริยาเคมี ก่อให้เกิดก๊าซไนโตรเจน ซึ่งมีปริมาณ 30-100 ลิตร อย่างรวดเร็ว เด็กที่นั่งอยู่ตักแม่ จะอยู่ห่างจากระยะระเบิดของถุงลมนิรภัยน้อยไป ทำให้ถุงลมกระแทกตัวเด็กได้ โดยจุดนั่งที่ปลอดภัยและคาดเข็มขัดจะต้องอยู่ห่างจากถุงลมนิรภัยอย่างน้อย 25 เซนติเมตร

“แม่อุ้มเด็กและนั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับ เพราะจะได้รับอันตรายจากถุงลมนิรภัย”

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

Shares:
QR Code :
QR Code