“มะเร็งผิวหน้า” อันตรายแฝงใน “เครื่องสำอางไร้มาตรฐาน”
แนะสวยดูดีแบบธรรมชาติห่างไกลโรค
ความสวยความงาม คือ เอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับผู้หญิงดังคำสำนวนไทยที่ว่า….ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ร่างกายผู้หญิงจึงถูกแต่งแต้มสีสันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า โดยอวัยวะที่ผู้หญิงให้ความสำคัญ มากที่สุดคงหนีไม่พ้นบริเวณ ‘ใบหน้า’ ประตูด่านแรกที่สามารถร่ายมนต์เสน่ห์ชวนฝันดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้ามได้ ด้วยเหตุนี้เองผิวหน้าจึงเป็นสิ่งที่สาวๆดูแลเป็นพิเศษเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อต่างๆ มากมายเพื่อบำรุงผิวจนหลงลืมอันตรายที่จะเกิดขึ้นตามมา!!
เมื่อข่าวที่ปรากฎตามสื่อมวลชนครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นตัวการันตรีถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ในเรื่องการฟ้องร้องหรือการได้รับผลกระทบจากการใช้เครื่องสำอางค์ไม่ได้มาตรฐาน ราคาถูก มีสารอันตรายเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์โดยเครื่องสำอางปลอมนั้นมักถูกลักลอบนำเข้า แล้วถูกนำไปวางขายควบคู่กับเครื่องสำอางทั่วไปจนผู้ซื้อไม่อาจแยกแยะได้ว่า สินค้าชนิดไหนเป็นของจริงหรือของปลอม เมื่อนำมาใช้จึงส่งผลเสียทำลายสภาพผิวหน้าที่เกิดขึ้นกับสุภาพสตรีมากกว่าสุภาพบุรุษ
ด้วยเหตุที่ผู้หญิงเป็นกลุ่มที่นิยมใช้เครื่องสำอางมากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ประจำกายของสาว ๆไปโดยปริยาย มีทั้งชนิดที่ใช้ทำความสะอาด ชนิดเสริมแต่งความงามและชนิดที่มียาผสมสำหรับเครื่องสำอางที่ใช้กันทั่ว ๆ ไปได้แก่ แป้งผัดหน้า ลิปสติก ครีมทาหน้า-ทาตัว โลชันต่างๆ และอื่นๆอีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหน้าได้ ยิ่งถ้าสาวๆให้ความสำคัญกับราคามากกว่าคุณภาพ
ด้วยแล้ว อาจเกิดผลกระทบกับผิวหน้าจากการซื้อของถูก เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นคันหรือเป็นฝ้าถาวรบนใบหน้า ซ้ำร้ายสารเคมีที่สะสมนำพาโรคร้ายมาสู่คุณโดยไม่รู้ตัว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ฐานิศ พลานุเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก ออกมาเตือนว่า ผลจากการใช้เครื่องสำอางค์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) อาจมีสารไตรโคลซาน ( Triclosan ) ปนเปื้อนในปริมาณที่เกินกำหนดเป็นปัจจัยเสี่ยงก่อให้เกิด “โรคมะเร็งผิวหนัง” (SKIN CANCER) ที่เกิดขึ้นได้บริเวณใบหน้าเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ชนิดที่เรียกว่า เมลาโนมา (Melanoma) หรือที่เรียกอีกอย่างหนี่งว่า “มะเร็งผิวหน้า” ที่จะลุกลามไปยังส่วนอื่นได้ง่ายกว่าโรคมะเร็งผิวหนังทั่วไป เกิดขึ้นในผู้หญิงไทยพอสมควร โดยอาการที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีความแตกต่างจากบริเวณผิวหนังส่วนอื่นมากนัก แต่จะมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อ ก้อนเนื้อ หรือไฝ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสี ขนาด รูปร่าง เร็วในช่วงเวลาไม่นาน หรือเป็นแผลเรื้อรังอยู่เป็นระยะเวลานาน
นอกจากนี้อาจจะเกิดการลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงที่สำคัญ บริเวณดวงตา จมูก หรือกระดูกอ่อน ซึ่งมีโอกาสกระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนแผลติดเชื้อถึงขั้นที่อวัยวะส่วนนั้นถูกทำลายได้ เจ้าโรคมะเร็งผิวหนังที่ว่านี้ทางการแพทย์ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของโรคที่แน่ชัด แต่พบว่าปัจจัยเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนัง คือ ในคนผิวขาวเกิดจากการโดนแดดมากเกินไป สำหรับคนไทยหรือคนเอเชียผิวคล้ำ อุบัติการการเกิดมะเร็งผิวหนัง มักจะพบในกรณีที่ใช้สารเคมีกรด ด่าง แต้มเพื่อรักษาติ่งเนื้อ หรือการรักษาอย่างไม่ถูกวิธี ด้วยยาสมุนไพรที่มีสารหนูเจือปนอย่างยาลูกกลอนหรือยาที่ไม่ได้มาตฐาน….!!!
เช่นนี้แล้วสาวๆ อย่าได้ชะล่าใจมองข้ามความปลอดภัยในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามประเภทต่างๆ แนะนำว่าควรอ่านฉลากเครื่องสำอางก่อนซื้อทุกครั้ง เลือกซื้อเครื่องสำอางที่มีขนาดและปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ใช้ได้หมดภายในเวลาสมควร และก่อนใช้เครื่องสำอางควรอ่านฉลาก ปฏิบัติตามวิธีใช้ คำเตือน รวมทั้งทดสอบการแพ้ก่อนใช้ด้วย อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณเด็ดขาดเพราะโรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัยและเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิวหน้าถ้าไม่ยากให้ใบหน้าสวยใสเกิดริ้วรอยแผลเป็นไม่ชวนมอง ก็ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคดังกล่าว
สำหรับพฤติกรรมของผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบริเวณใบหน้านี้ อาจจะเกิดขึ้นแตกต่างกันออกไป ทางที่ดีผู้หญิงเราจึงควรดูแลตนเองด้วยการหลีกเลี่ยง ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การอาบแดดเป็นเวลานานโดยไม่ใช้ครีมกันแดดที่อย่างน้อยควรเลือกที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการถูกทำลายจากแสงแดด ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพเครื่องหมาย อย. ลดการสะสมของสารเคมีที่ตกค้างในร่างกาย
ที่สำคัญอย่าลืมสังเกตความผิดปกติของใบหน้า หากเกิดผื่นแดงหรือมีอาการคันจากการใช้เครื่องสำอางชนิดใดควรหยุดใช้ทันที โดยเฉพาะถ้าเกิดติ่งหรือก้อนเนื้อบนผิวหนังมีความเปลี่ยนแปลงของขนาดสีที่จากผื่นแดงกล้ายเป็นสีคล้ำ แนะนำว่าไม่ควรแกะแคะติ่งเนื้อให้หลุดจากผิวหนัง ควรไปรับการตรวจรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงทีก่อนมะเร็งร้ายจะทำลายใบหน้าสวยๆของคุณจนยากเกินเยียวยา
เพื่อให้ผิวหน้าสวยอยู่คู่กับเราไปอีกนาน!! มาลองปฏิวัติตัวเองเสริมความสวยใสสู่ผิวเปล่งประกายด้วยวิถีธรรมชาติกันดีกว่า วิธีง่ายๆด้วยสมุนไพรไทยอย่างผู้หญิงทำได้ด้วยตัวเอง
ที่สำคัญไม่พึ่งสารเคมีอีกด้วย เริ่มต้นกันที่
แบบหน้าใส อมชมพู ใช้ขิงแก่ฝานบางๆ ตามยาวแล้วใช้น้ำจากขิงปาดบริเวณหน้าทิ้งไว้ 2 นาที เมื่อรู้สึกร้อนและตึงบริเวณใบหน้าแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อช่วยกระชับรูขุมขน ความรู้สึกร้อนบนใบหน้าจะหายไป หรือใครอยากผลัดเซลล์ผิวเก่าออก แนะนำให้ใช้น้ำมะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง ขมิ้น นมสด เข้าด้วยกัน ใช้นวดหน้าเซลล์ผิวที่ตายจะหลุดออกมาทำให้ผิวหน้าเนียนใสไร้สิวเสี้ยน
หรือถ้าในตู้เย็นมีแตงกวาก็ใช้ได้ เพียงล้างให้สะอาดปั่นรวมกับนมสดจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกหน้าก่อนนอนประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะสัมผัสได้ถึงผิวหน้าที่สดชื่นเตงตึงเผยผิวสวยปลอดสารเคมี
และหลังจากนี้ก่อนออกจากบ้านถ้าต้องหยิบเครื่องสำอางมาเติมแต่งใบหน้า อย่าลืมพลิกอ่านส่วนประกอบ พร้อมดูเครื่องหมายรับประกันคุณภาพ และตรวจดูวันหมดอายุก่อนใช้ด้วยทุกครั้งนะค่ะ ทำได้แค่นี้คุณสาวๆ ก็จะห่างไกลมะเร็งผิวหน้าภัยร้ายใกล้ตัว อย่างเครื่องสำอางไม่มีคุณภาพแล้ว…
ง่ายๆ แค่เอื้อมมือแบบนี้อย่าลืมลองทำนะค่ะ แล้ววันพรุ่งนี้คุณจะอวดใบหน้าสวยใสพร้อมความมั่นใจเต็มเปี่ยมได้อย่างแน่นอน!!!
………..
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: นพ.ฐานิศ พลานุเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง
โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก
เรื่องโดย: กิตติยา ธนกาลมารวย Team content www.thaihealth.or.th
Update:01-02-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: กิตติยา ธนกาลมารวย
