มท.เร่งขับเคลื่อนตำบลน่าอยู่

ยกทต.หนองแวงนำร่อง

มท.เร่งขับเคลื่อนตำบลน่าอยู่

 

          ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบล (ทต.) หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ นายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมความเข้าใจเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงาน พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลง “โครงการประสานพลังเครือข่ายท้องถิ่นขับเคลื่อนตำบลน่าอยู่ที่สุด” ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เทศบาลตำบลหนองแวง จัดขึ้นเพื่อพัฒนาเทศบาลตำบลหนองแวงให้เป็นศูนย์เรียนรู้ในการจัดระบบจัดการสุขภาวะโดยชุมชน รวมทั้งพัฒนาเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างตำบลน่าอยู่ที่สุด โดยมีการเชื่อมโยงและมีกิจกรรมเชิงยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขในท้องถิ่นร่วมกัน มุ่งเน้นให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาหาภูมิคุ้มกันตนเองในเรื่องสุขภาวะ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 20 แห่งใน 3 จังหวัดภาคอีสาน ได้แก่ จ.นครราชสีมา สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เป็นเครือข่าย ซึ่ง ทต.หนองแวง เป็นต้นแบบและศูนย์เรียนรู้นำร่องแห่งแรกของภาคอีสาน

 

          นางดวงพร เฮงบุญยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะในพื้นที่และชุมชน ซึ่งรับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย และ สสส.มีแนวนโยบายที่สอดคล้องกัน ที่ต้องการเห็นท้องถิ่นและชุมชนเป็นตำบลที่น่าอยู่ ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข โดยมุ่งเน้นให้ อปท.ได้คิดริเริ่มด้วยตนเองตามศักยภาพและภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น เพื่อการสร้างสุขภาวะที่ดีแก่ประชาชน ซึ่งหากประชาชนมีสุขภาพดี มีหลักประกันด้านสุขภาพที่ดี ก็จะทำให้เกิดความเป็นชุมชนหรือตำบลที่น่าอยู่ที่สุดต่อไปในอนาคต ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการมาแล้ว 12 แห่งทั่วประเทศ โดยเทศบาลตำบลหนองแวง ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในภาคอีสาน ซึ่งจะมีการขยายไปยังท้องถิ่นอื่นๆ ต่อไป

 

          ด้านนายประสิทธิ์ บรรเทา นายกเทศมนตรีตำบลหนองแวง กล่าวว่า ตำบลหนองแวงได้ดำเนินโครงการสร้างสุขภาวะแก่ประชาชนมาตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา โดยได้รับงบประมาณจาก สสส.จำนวน 21 ล้านบาท ในการสานต่อ และขับเคลื่อนโครงการเพื่อมุ่งสร้างตำบลน่าอยู่ที่สุด โดยขณะนี้โครงการเด่นคือ การตั้งกองทุนโรงพยาบาลตำบล เพื่อให้บริการรักษาพยาบาล ประกันสุขภาพประชาชนในตำบลที่มีอยู่กว่า 10,000 คน ให้ได้รับสวัสดิการด้านสุขภาพ เนื่องจากตำบลหนองแวงอยู่ห่างไกล ดังนั้นการเดินทางไปรักษาในโรงพยาบาลอำเภอหรือจังหวัดจึงไม่สะดวก ดังนั้น ตอนนี้โรงพยาบาลตำบลจึงมีความเข้มแข็ง โดยมีเงินกองทุนหมุนเวียนกว่า 1 ล้านบาท และยังให้ทุนส่งบุตรหลานในตำบลเรียนด้านสาธารณสุขเพื่อกลับทำงานในโรงพยาบาลตำบลอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

 

 

update : 16-09-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร

 

Shares:
QR Code :
QR Code