ภาคใต้ตอนบน ระวังโรคตาแดงระบาดหนัก

/data/content/26889/cms/e_bdeilrvx2389.jpg


          สคร.11 เตือนภาคใต้ตอนบนระวังโรคตาแดงระบาด ตรวจพบมีผู้ป่วยกว่าหมื่นรายแล้ว


          นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เผย จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคของกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สคร.11 ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค – 6 ธ.ค. 57 พบผู้ป่วยโรคตาแดง 15,288 คน ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต พบผู้ป่วยเพศหญิงมากว่าเพศชาย ส่วนใหญ่พบเป็นเด็กนักเรียนอายุ 5-9 ปี สำหรับจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือจังหวัดระนอง ภูเก็ต ชุมพร กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ตามลำดับ


          นพ.ภาณุมาศ กล่าวเพิ่มเติม โรคตาแดงพบได้ทุกเพศ ทุกวัย เป็นโรคที่ติดต่อง่าย โดยติดต่อกันจากการสัมผัสมากที่สุด ทั้งสัมผัสกับน้ำตา ขี้ตา หรือสัมผัสของใช้ของผู้ป่วย เช่น ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้า สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อป่วยแล้วต้องหยุดเรียน หยุดงานประมาณ 7 วัน เพื่อป้องกันโรคติดต่อไปยังผู้อื่น ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้อย่างดี


          สำหรับวิธีรักษาโรคตาแดงจะใช้การรักษาตามลักษณะอาการของโรค เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสนี้ โดยตรง ถ้ามีขี้ตามากก็หยอดยาปฏิชีวนะ หากมีไข้ เจ็บคอ ใช้ยาแก้อักเสบร่วมด้วยกับยาลดไข้ ยาลดปวด ผู้ป่วยโรคตาแดงต้องพยายามรักษาสุขภาพพักผ่อนมากๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการตาแดงอย่างรุนแรง ไม่ควรทำงานดึกควรนอนให้เพียงพอ และควรสวมแว่นกันแดด เพื่อป้องกันแสงโดยทั่วไป แล้วโรคตาแดงมักจะไม่ทำให้ปวดตามากหรือตามัว สิ่งที่ควรระวังคือ หากเป็นโรคนี้แล้ว มีอาการปวดตามาก ตาแดงมาก ตามัว หรือมองสู้แสงไม่ได้ ควรรีบพบจักษุแพทย์ เนื่องจากอาจเป็นโรคอื่น เช่น ต้อหิน ม่านตาอักเสบ ซึ่งถ้าได้รับการรักษาช้าอาจเกิดความพิการอย่างถาวรของตาได้ นพ.ภาณุมาศ กล่าว


 


 


          ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐ


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ