ภาคเหนือร่วมใจลอยกระทง ปลอดเหล้า
จากสถานการณ์น้ำท่วมประเทศไทยที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้กับประชาชนคนไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งไร้ที่อยู่อาศัย ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม โดยเฉพาะจังหวัดแถบภาคกลาง เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี ลพบุรี นครสวรรค์ เป็นต้น ทำให้หลายคนต้องการใช้โอกาสในประเพณีลอยกระทงในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ขอขมาแม่พระคงคาพร้อมกับอธิษฐานให้แม่พระคงคาช่วยนำพาให้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายโดยเร็ววัน
นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกเพื่อทดแทนธุรกิจแอลกอฮอล์ด้านประเพณีวัฒนธรรมและการส่งเสริมนโยบายสาธารณะ กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงเป็นประเพณีที่อยู่กับคนไทยมาช้านาน ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย โดยถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย เพื่อเป็นการขอขมาแม่พระคงคา ลอยทุกข์โศกให้พ้นไปจากครอบครัวและตัวเอง รวมทั้งระลึกถึงบุญคุณของน้ำที่มีประโยชน์อเนกอนันต์ต่อคนไทย
ดังนั้น เพื่อให้ประเพณีลอยกระทงนี้คงความงดงามตลอดไป ทางเครือข่ายฯ จึงได้มีการรณรงค์ขอความร่วมมือไปยังแต่ละจังหวัดให้จัดงานลอยกระทงปลอดเหล้า-บุหรี่มาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจากหลายจังหวัดเป็นอย่างดี โดยมีการเจตนารมณ์ชัดเจน ว่าช่วงจัดงานประเพณีลอยกระทงจะควบคุม ห้ามดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานเด็ดขาด ล่าสุดปีนี้ได้รับความร่วมมือจาก 20 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ทางภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย และตาก เป็นต้น
“เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงใช้โอกาสในวันลอยกระทงปีนี้กลับมาพักใจ หนีน้ำท่วม มาพึ่งไออุ่นจากการทำกิจกรรมดีๆ ที่ช่วยทำให้ลืมความทุกข์ไปชั่วคราว เพื่อจะได้มีพลังกลับไปเยียวยาในช่วงหลังน้ำลด อีกทั้งอาจจะใช้โอกาสนี้ขอขมาแม่พระคงคาด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำอีเอ็มบอลหรือน้ำจุลินทรีย์เพื่อนำไปบำบัดน้ำเสีย การวางผังเมืองใหม่เพื่อไม่ให้รุกล้ำพื้นที่สายน้ำ และไม่ทิ้งขยะลงไปในแม่น้ำเพื่อรักษาความสะอาด โดยใช้จุดเริ่มต้นของการลอยกระทงในการฟื้นคืนคุณค่า การคิดถึงธรรมชาติและสายน้ำ” นายวิษณุกล่าว
ด้านนายทัศนัย บูรโณปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการจัดงานลอยกระทงปลอดเหล้า-บุหรี่นั้น ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยในปีที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้า รวมทั้งผู้ที่มาเที่ยวงานเป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากสถิติของผู้ประสบอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท หรือการกระทำอนาจาร ลดลงไปกว่า 50%
ส่วนการจัดงานในปีนี้ เราจะเน้นเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีการห้ามดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งในบริเวณงานและรอบๆ งานแล้ว ยังห้ามจำหน่ายและเล่นประทัดยักษ์อีกด้วย เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้เล่นเอง และสร้างความไม่ปลอดภัยแก่ผู้คนรอบข้าง อีกทั้งยังขอร้องไม่ให้มีการจุดโคมลอย เพราะไร้การควบคุมและจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ ซึ่งเราได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบก่อนการจัดงานประมาณหนึ่งเดือน โดยการติดป้ายประชาสัมพันธ์รอบพื้นที่การจัดงานและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน เป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
นอกจากนี้ยังประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอห้องขังเคลื่อนที่มาเตรียมไว้ในบริเวณการจัดงาน เพื่อจะได้นำผู้ที่ดื่มจนขาดสติที่ก่อให้เกิดความรำคาญ หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น มาสงบสติอารมณ์ในห้องขังนี้
“อย่างไรก็ตาม อยากให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักและสืบทอดและอนุรักษ์ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่ ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามที่ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นให้คงอยู่ตลอดไป อีกทั้งในปีนี้นับเป็นปีแห่งวิกฤติภัยธรรมชาติ จึงต้องการให้ผู้ที่มาเที่ยวรู้สึกผ่อนคลายจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบางรายอาจจะเป็นผู้ประสบอุทกภัยที่หนีน้ำมา จึงอยากให้รู้สึกมีความผ่อนคลาย สบายใจ และมีความสุขมากขึ้น” นายทัศนัยกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยและการดูแลความเรียบร้อยภายในงานว่า เราได้ร่วมมือกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกันออกรณรงค์เพื่อขอความร่วมมือกับผู้ค้าให้งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และประทัดยักษ์ หรือประทัดที่ส่งเสียงดัง ส่วนผู้เล่น เราก็จะประชาสัมพันธ์ว่า หากท่านเล่นแล้วก่อให้เกิดความรำคาญ ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว หรือการเล่นที่ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ประมาท ท่านก็จะได้รับโทษทางกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืนก็จะมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน แต่ถ้ายังคงกระทำผิดซ้ำซากอีกก็จะมีการจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นสูงสุดต่อไป
นายสมชาติ เพ็ชรประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองตาก กล่าวถึงการร่วมรณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า-บุหรี่ ว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้เข้าร่วมรณรงค์จัดงานลอยกระทงปลอดเหล้า-บุหรี่ ร่วมกับทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เนื่องจากต้องการให้งานลอยกระทงสายคงไว้ซึ่งประเพณีที่ดีงาม โดยการรณรงค์ให้ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ลง งานจะได้มีความสงบเรียบร้อย ไม่มีการทะเลาะวิวาทกัน อีกทั้งยังต้องการให้ผู้มาร่วมงานมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
“ที่ผ่านมามักพบปัญหาเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ การทะเลาะวิวาทกันเนื่องจากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเมาขาดสติอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้จะเป็นปีแรกของการรณรงค์ แต่ก็เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ที่มาเที่ยวงานเป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนจะมีการลงโทษตามกฎหมายทันที” นายกเทศมนตรีเมืองตาก กล่าว
การเปลี่ยนแปลงงานบุญจากที่เคยเปื้อนเหล้าให้กลับมาปลอดเหล้า ปลอดภัยนั้น ถือเป็นการทำบุญชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติมีจิตใจที่ผ่องใส สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีสติ และถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยเยียวยาจิตใจของผู้ประสบอุทกภัยที่หนีน้ำมาเที่ยวในช่วงวิกฤติเช่นนี้ได้รู้สึกผ่อนคลาย และมีจิตใจที่เบิกบานมากขึ้น พร้อมที่จะกลับไปฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลด
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์