ภัยที่มากับวันลอยกระทง
อุบัติเหตุทางถนน
จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมากเป็นอันดับ 3 ของปีคือ 9,658 ครั้ง คร่าชีวิตคนไทยไปถึง 1,122 คน มากกว่าเดือนเมษายน ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์เสียอีก เหตุนอกจากการที่คนขับรถเดินทางไปเที่ยวลอยกระทงกันเป็นจำนวนมาก ยังเป็นเพราะการดื่มเหล้าฉลองวันรื่นเริงนี้ด้วย
วิธีรับมือ
ก่อนออกเดินทางต้องตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน และเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากในคืนวันลอยกระทงจะมีรถมาก ศึกษาสภาพเส้นทางก่อนออกเดินทาง และไม่ควรขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กำหนด ไม่ดื่มสุราหากต้องขับรถ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด วัยรุ่นที่มักขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวงาน ต้องสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย
พลุ ดอกไม้ไฟ
ลอยกระทงกับการจุดพลุ ดอกไม้ไฟเป็นของคู่กัน แต่ไม่ว่าปีไหนก็มักได้ยินข่าวคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการถูกพลุดอกไม้ไฟระเบิดใส่ แต่ละปีมีคนเข้ารักษาในห้องฉุกเฉินกว่า 13,000 ราย โดยเฉพาะเด็กอายุ 10-14 ปี ที่สำคัญผู้บาดเจ็บรุนแรงกว่า 30% คือ คนเมา!
วิธีรับมือ
การจุดพลุและประทัดหรือดอกไม้เพลิงที่ถูกต้อง ปัจจุบันจะอนุญาตให้เฉพาะผู้จัดงานหรือผู้ประกอบการเท่านั้น อธิบายให้ความรู้แก่บุตรหลานเกี่ยวกับอันตรายของพลุ ดอกไม้ไฟ และระยะปลอดภัยในการยืนดูพลุคือ 10 เมตรขึ้นไป งดเว้นที่จะซื้อพลุ ดอกไม้ไฟ มาเล่นเอง เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงเสน่ห์แห่งความสวยงาม แต่ยังแฝงไว้ด้วยมหันตภัยอันร้ายแรงจมน้ำ
เทศกาลลอยกระทงเป็นช่วงที่เด็กไทยเสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตสูงสุดในรอบปี สถิติ 4-5 ปีที่ผ่านมา ในคืนวันลอยกระทงจะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตทันที 5 ศพ และในวันรุ่งขึ้นจะพบอีก 8 ศพ หรือเฉลี่ย 13 ศพ จาก 2 สาเหตุหลัก คือพลัดตกน้ำเพราะผู้คนเบียดเสียด และการลงน้ำไปเก็บเศษเงินในกระทง
วิธีรับมือ
พาเด็กไปลอยกระทงในสถานที่ปลอดภัยและถูกจัดเตรียมสำหรับลอยกระทง โดยเฉพาะตลิ่งต้องไม่สูงชันจนเกินไป หากมีการลงเรือต้องเตรียมเสื้อชูชีพให้พร้อมทุกครั้ง ผู้ปกครองควรดูแลเด็กไม่ให้คลาดสายตา จูงมือเด็กให้แน่น และไม่ปล่อยเด็กให้ลอยกระทงเพียงลำพัง หลีกเลี่ยงการพาเด็กเดินเล่นบริเวณริมน้ำ เพราะมีผู้คนเบียดเสียด เสี่ยงต่อการตกน้ำ กำชับเด็กไม่ให้ลงไปในน้ำเพื่อเก็บเงินในกระทง เพราะการแช่อยู่ในน้ำเย็นเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เป็นตะคริวจมน้ำเสียชีวิต เล่นพลุดอกไม้ไฟอาจโดนจับเล่นให้เกิดเสียงดัง เป็นที่เดือดร้อนรำคาญมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท เล่นด้วยความประมาทจนเกิดอันตรายแก่ผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้ามีผู้บาดเจ็บสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ หากมีผู้เสียชีวิตมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท เป็นเหตุไฟไหม้โรงเรือน ที่อยู่อาศัย ที่เก็บหรือทำสินค้า สาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี
ตกน้ำไม่จม ทำไงอ่ะ
ในแต่ละวันมีเด็กไทยจมน้ำตายเฉลี่ยวันละ 4 คน! สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว 5-15 เท่า จึงเกิดโครงการ “ตกน้ำไม่จม” สนับสนุนโดย สสส.เพื่อให้ความรู้ในเรื่องการเอาชีวิตรอดจากการประสบภัยทางน้ำ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำทั้งที่ว่ายน้ำเป็นและว่ายน้ำไม่เป็น การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการกู้ชีพ ไปจนถึงการทำให้ร่างกายแข็งแรงที่จะรับมือกับไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ด้วยกิจกรรมว่ายน้ำ ใครสนใจหนังสือ “ตกน้ำไม่จม ทำไงอ่ะ” เข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ http://info.thaihealth.or.th/library/hot/12649note พบเห็นผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร.แจ้งหน่วยกู้ชีพนเรนทร หมายเลข 1669 ฟรีทุกระบบ ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : จดหมายข่าวสร้างสุข ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553
Update : 18-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร