ฟิตติดบ้าน ต้านโควิด-19

ที่มา : มติชน


ฟิตติดบ้าน ต้านโควิด-19 thaihealth


แฟ้มภาพ


ไทยฟิตติดบ้าน ต้านโควิด-19 ตอน "รอดไปด้วยกัน" ชวนคนไทยออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ เสริมภูมิคุ้มกันโรคให้ร่างกาย


ในการแถลงข่าวไทยฟิตติดบ้านต้านโควิด-19 ตอน "รอดไปด้วยกัน" ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุง และนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อมากถึง 47,948 คน เสียชีวิต 242 คน คิดเป็นร้อยละ 0.505 ซึ่งรุนแรงมากกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมาหลายเท่าตัว และที่น่าตกใจคือ 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่อ้วน และมีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดเรื้อรัง โรคไต เมื่อติดเชื้อแล้วมีความเสี่ยงมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูงเป็น 2 เท่าของคนทั่วไป


ดังนั้น การดูแลสุขภาพในช่วงนี้เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการกักตัวอยู่แต่ในบ้าน หรือทำงานจากที่บ้าน สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน ล้างมือบ่อยๆ ใช้อุปกรณ์การกินส่วนตัว เว้นระยะห่างระหว่างกัน ไม่ไปในที่แออัด และต้องดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง ฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อมีโอกาส


นายสง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษาเครือข่ายคนไทยไร้พุง และผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. กล่าวว่า การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ทุกมื้อ จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ ไขมัน และน้ำ หล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรงสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคได้ และให้เน้นกินอาหารไทยที่อุดมด้วยพืชผัก สมุนไพร โดยเฉพาะ พริก ขิง และกระชาย ที่มีสารต้านโรคได้ ที่สำคัญให้ลดหวาน มัน เค็ม ตามสูตร 6:6:1 ใน 1 วัน ต้องกินน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา และเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา ในช่วงกักตัวอยู่ที่บ้านแนะนำให้ปรุงอาหารกินเอง แต่ถ้าจะสั่งหรือซื้ออาหารจากนอกบ้าน ควรเน้นเมนูบำรุงสุขภาพครบ 5 หมู่ และสะอาดปลอดภัย


ด้าน ผศ.นพ.สมเกียรติ แสงวัฒนาโรจน์ กรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง กล่าวว่า ในช่วงนี้แนะนำให้อยู่บ้าน กินดี มีขยับ 1.กินดี คือ กินแบบไทยโบราณผสมผสานกับอาหารเมดิเตอร์เรเนียน รูปแบบกินอาหารจาน 2:1:1 โดย กิน "ผัก พริก ถั่ว งา" 2 ส่วน "ปลา (ไม่ทอด)" 1 ส่วน และ "ข้าวกล้อง" 1 ส่วน เสริมด้วยผลไม้จานเล็ก ทุกมื้อหลังอาหาร 2.มีขยับ คือ ลดนั่ง เพิ่มยืน-เดิน ไม่เพลิน นั่งกิน นอนกิน จนน้ำหนักขึ้น เข็มขัดคับ ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ แต่ละวันควรเดินเกิน 7,000 ก้าว เสริมด้วยเดินเร็ว 3,000 ก้าว ใน 30 นาที (นาทีละ 100 ก้าวติดต่อกันครึ่งชั่วโมง) หรือการออกกำลังกาย ทั้งแอโรบิก แบบมีแรงต้านหรือเพิ่มความยืดหยุ่น นอนให้พอ หลับสบาย คลายเครียดด้วยลมหายใจ พักผ่อนกายใจด้วยสมาธิ ละบุหรี่ เลิกเหล้า


ทั้งนี้ เชิญชวนทุกคนร่วมกิจกรรมออนไลน์ช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2564 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊ก เครือข่ายคนไทยไร้พุง และสมาคมโรคเบาหวานฯ

Shares:
QR Code :
QR Code