พ่อแม่ควรสังเกตลูก มีปัญหาที่ ร.ร. หรือไม่

/data/content/24363/cms/e_eiortwy12569.jpg


          พญ.พรรณพิมล วิปุลากรรองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีที่เด็กนักเรียนชั้นป.6 อายุ 11 ปี ที่อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ใช้มีดที่พกมาจากบ้านแทงเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันเสียชีวิตหลังจากชกต่อยกันว่า กรณีเช่นนี้ด้วยวัยเด็กเพียงเท่านี้ไม่น่าจะมีเจตนาหรือวางแผนเพื่อทำร้ายเพื่อนให้ถึงแก่ชีวิต เพียงต้องการการโต้ตอบรุนแรงกลับไปบ้างเท่านั้น


          วิธีการนี้เป็นวิธีคิดแบบเด็กๆ ที่สำคัญ พ่อแม่ควรดูแลลูกในครอบครัวระมัดระวังไม่ให้เด็กเข้าถึงอาวุธทุกประเภท ถ้าพ่อแม่ดูแลลูกก็ควรพอที่จะรู้ว่าในประเป๋านักเรียนของลูกมีอะไรบ้าง ซึ่งการที่เด็กพกมีดไปโรงเรียนเป็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น


          ทั้งนี้พ่อแม่ควรสังเกตลูกโดยเฉพาะเมื่อกลับจากโรงเรียนว่า ลูกมีปัญหาที่โรงเรียน ถูกเพื่อนแกล้งล้อเลียนหรืออื่นๆหรือไม่ เช่น อาจจะซึมลง โดยพ่อแม่ควรเข้าไปพูดคุยจะทำให้ได้ข้อมูลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร วิธีการถูกแกล้งหรือรังแกในโรงเรียนเป็นอย่างไรและติดตามดูปัจจัยแวดล้อม กลุ่มที่แกล้ง ช่วงเวลาที่ถูกแกล้ง เพื่อช่วยหาวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง และหลีกเลี่ยง


          รวมทั้งต้องดูว่าลูกมีสัมพันธภาพกับเพื่อนคนอื่นๆ เป็นอย่างไรด้วย เพราะหากเด็กอยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มจะลดการตกเป็นเป้าหมายในการถูกกลั่นแกล้ง แต่ถ้าปลีกตัว ไม่สนใจใคร ไม่เข้ากลุ่มกับเพื่อน โอกาสถูกแกล้งมีมาก จนกดดันให้ใช้ความรุนแรง แต่สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำ คือ การดุลูกซ้ำว่าปล่อยให้เพื่อนแกล้งได้อย่างไร หรือสอนให้ลูกสู้กลับจะเป็นการผลักลูกสู่ความเสี่ยง


          พญ.พรรณพิมล กล่าวอีกว่า ปัญหาการกลั้นแกล้งกันของเด็กในโรงเรียนไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีหลายโรงเรียนเริ่มคุยกับเด็กว่าโรงเรียนไม่สนับสนุนให้มีการแกล้งกันเกิดขึ้นในโรงเรียนเมื่อมีปัญหาโรงเรียนจะรีบแก้ไข ทั้งนี้ เด็กที่จะมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงมี 3 แบบ ได้แก่ 1. เด็กที่มีแนวโน้มคุมตัวเองไม่ดี 2. มีความไม่ปกติหรือภาวะป่วยบางอย่าง ทำให้การจัดการปัญหาไม่ค่อยดร เช่น มีภาวะทางสมองและ3. เป็นผู้ถูกกระทำซ้ำๆ แล้วไม่ได้รับการเสนอแนะทางออกที่ถูกต้อง หรือวิธีแก้ปัญหาที่ดี ทำให้เกิดความคิดแบบเด็กๆในการโต้กลับด้วยความรุนแรง


          อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 กลุ่ม หากพ่อแม่ให้ความใกล้ชิด สังเกตและดูแลลูกจะช่วยหาทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เนื่องจากเด็กยังแก้ปัญหาเองไม่ได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ลูกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา


          วันเดียวกัน นางอนงค์ เชาวนะกิจ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 กล่าวถึงกรณีนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ขรี (สวิงประชาสรรค์) อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ใช้อาวุธมีดพกแทงเพื่อนนักเรียนบริเวณเข้าใต้รักแร้จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตภายหลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลตะโหมด เนื่องจากบาดแผลถูกแทงลึกตัวขั้วหัวใจ ว่า ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า เด็กที่ทะเลาะวิวาทกันจนแทงเพื่อนนักเรียนเสียชีวิตนั้น เป็นคู่ทะเลาะวิวาทกันอยู่แล้ว


          อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองนักเรียนที่เสียชีวิตซึ่งเป็นมุสลิมได้ฝังศพเด็กไปแล้ว และก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเด็กทะเลาะกัน ขณะเดียวกับทางโรงเรียนก็ได้ใช้เงินสวัสดิการเยียวยาครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิตไปแล้ว ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ได้ส่งคนมาเยี่ยมครอบครัวนักเรียนด้วย ส่วนนักเรียนที่ก่อเหตุนั้นอยู่ในสภาพเสียขวัญเพราะไม่คาดคิดว่า เรื่องจะเป็นแบบนี้ ทั้งนี้ ได้รายงานข้อมูลมายัง สพฐ.แล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุ 20 พ.ค.แล้ว


 


 


          ที่มา : หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย 


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code