“พ่อหลวงต้นแบบ” แนวทางดำเนินชีวิต
“ข้าพระพุทธเจ้า จะประพฤติปฏิบัติเป็นข้าราชการที่ดีตามรอยพระยุคลบาท จะมุ่งมั่นแน่วแน่ แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน และเสริมสร้างคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน โดยยึดมั่นในหลักธรรมและความถูกต้องตลอดไป” เสียงคำถวายสัตย์ปฏิญาณ แสดงความมุ่งมั่นต่อการทำงานของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สสส. ที่พร้อมใจกันกล่าวเพื่อตั้งมั่นเป็นข้าราชบริพาลและพลังของแผ่นดินที่ดี เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2552
บรรยากาศภายในพิธีเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ซึ่งทุกคนได้ร่วมลงนามถวายพระพรแสดงความจงรักภักดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยพร้อมเพรียงกัน ณ ลานกิจกรรมชั้น 35 สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นพ.มานิตย์ ประพันธ์ศิลป์ เลขานุการกรรมการประเมินผลสำนักบริหารกลาง สสส. สะท้อนการทำความดีถวายพ่อหลวงว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานได้ดำเนินรอยตามพระราชดำริด้านปรัชญาเศรษกิจพอเพียง 5 ประการมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ การประหยัด ประกอบอาชีพด้วยความสุจริต ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์ไม่เบียดเบียนผู้อื่น รู้จักขวนขวายหาความรู้อยู่เสมอ และประพฤประฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม
“วิถีชีวิตแบบพอเพียง เป็นแนวทางดำเนินชีวิตตามรอยเท้าพ่อที่ทุกคนสามารถทำได้ตลอดชีวิตเพียงพึงพอใจในสิ่งที่ตนมี บริโภคอย่างพอเพียงตามกำลังทรัพย์โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ และไม่ทำร้ายตัวเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน”
นพ.มานิตย์ บอกพร้อมทั้งให้ข้อคิดต่อว่า
“ในวันพ่อปีนี้อยากให้ทุกคนคิดดีทำดี ใช้สติปัญญาในการคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ ดำเนินชีวิตแบบไม่ทำร้ายตัวเอง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสครบรอบ 82 พรรษา”
เช่นเดียวกับนางสุภาวดี ถิระพานิช ผู้อำนวยการสำนักพัฒนายุทธศาสตร์แผนและสมรรถนะ สสส. บอกว่า พ่อหลวงทรงเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตในบทบาทผู้บริหารยึดแนวทางปฏิบัติตามรอยเท้า “พ่อหลวง” รู้จักเสียสละและเป็นผู้ให้เมื่อมีโอกาส สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความดีที่ทุกคนทำได้ เพียงเริ่มต้นที่ตัวเราเป็นแบบอย่างให้ครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน
แต่สำหรับด้านมุมมองในฐานะคุณแม่ลูกสอง นางสุภาวดี บอกว่า ได้ปลูกฝังนิสัยความพอเพียงให้ลูกๆตั้งแต่เด็กผ่านการทำกิจกรรมครอบครัว อย่างยาสีฟันที่ใช้ประจำวันต้องบีบใช้ตามความจำเป็น ตัดก้นยาสีฟันเมื่อปริมาณน้อยลง ซึ่งสามารถบีบใช้ได้นานอีก 1 อาทิตย์เป็นการเห็นคุณค่าสิ่งของเครื่องใช้ดั่งเช่นพระองค์ท่านทรงใช้ด้ามแปรงพระทนต์รีดหลอดยาจนแบนนั่นเอง
ด้านนางสาวนิรมล ราศรี นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญสำนักรณรงค์และสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคม สสส. ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับแผนงานการออกกำลังกายและทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย บอกว่า เข้าร่วมพิธีลงนามถวายพระพรเป็นครั้งที่ 2 รับรู้ถึงความร่วมมือร่วมใจของเจ้าหน้าที่ทุกคนแสดงพลังทำความดีถวายพ่อหลวงด้วยการกระทำ ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณตั้งมั่นเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน
แม้กิจกรรมได้ผ่านไปแล้วแต่ความเคารพรักศรัทธาต่อ“พ่อหลวง”ยังคงอยู่ เพราะทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จะทำหน้าที่สร้างสุขภาวะที่ดีให้เกิดขึ้นทั้งในและนอกองค์กร พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ภาคีเครือข่าย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานสร้างสังคมสุขภาพดี ถ้าคนในสังคมมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงประเทศชาติย่อมแข็งแรงตามไปด้วย
ดังเช่นพระบรมราโชวาทความตอนหนึ่งว่า
“ความเจริญของประเทศชาติเป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดินควรจะได้คำนึงในข้อนี้ให้มาก พิจารณาให้เห็นความสำคัญของผู้อื่น ให้รู้จักนับถือผู้อื่น ใช้ความมีเหตุผลและความร่วมมือกัน ในการปฏิบัติบริหารงานทั้งปวง เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตนเอง และจรรโลงประเทศชาติของเราให้ดำรงมั่งคงอยู่ตลอดไป”
นี่คือส่วนหนึ่งของการแสดงพลังตั้งมั่นทำความดีตามรอยพระยุคลบาท ซึ่งไม่มีคำว่าสายเกินไปหากทุกคนคิดจะทำ มาลองสำรวจตัวเองสักนิดวันนี้เราทำความดีถวายในหลวงแล้วหรือยัง
update: 11-12-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: กิตติยา ธนกาลมารวย