“พ่อสี” ผู้รอดพ้นความตาย

จากมัจจุราชที่มีชื่อว่าเหล้า

 

          โครงการ “ค่ายสร้างสุข ยอดคุณพ่อเลิกเหล้า” มีตัวอย่างของผู้ร่วมกิจกรรมจากที่เคยเป็นคนขี้เหล้ากลายมาเป็นผู้ที่สามารถหันหลังให้น้ำเมาได้แล้ว พ่อประสิทธิ์ นาสุง หรือ พ่อสี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.3 ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เดิมเป็นชาวร้อยเอ็ดมีอาชีพทำนา ชอบดื่มเหล้าในช่วงลงแขกทำนาหรือนวดข้าว เจ้าของจะหมักเหล้าโทไว้เป็นโอ่งเป็นไหไว้ให้คนที่มาช่วยลงแรง ตอนนั้นอายุ 13 ปี ก็ไปช่วยลงแขกนวดข้าวพอเสร็จงานก็ลองดื่มกับเขา ผู้ใหญ่ก็ไม่ว่าเพราะผู้ใหญ่ก็ดื่มกันเป็นเรื่องธรรมดา ร่างกายช่วงนั้นยังแข็งแรงเวลาดื่มมันรู้สึกคึกคักทำงานดี ก็เลยดื่มมาตลอดแต่ยังไม่ถึงกับมาก พออายุย่างเข้า 15 ปี ก็มีคนในหมู่บ้านมาพาไปทำงานรับจ้างอยู่ในกรุงเทพฯ

 

          ประสิทธิ์ เล่าว่า ช่วงทำงานรับจ้างมีรายได้ไม่แน่นอน บางวันก็ประมาณ 300 บาท บางวันก็ 50 หรือ 60 บาท เลิกงานทุกวันจะต้องไปกินเหล้าวันละ 5 บาท จะได้เหล้า 1 กั๊ก โซดา 1 ขวด บุหรี่ 1 ตัว ครั้งแรกๆ วันละ 5 บาท พอมีเพื่อนฝูงมานั่งร่วมวงสังสรรค์ด้วยกันก็จะเฉลี่ยกันออกคราวนี้ไม่ใช่ 5 บาทแล้ว เป็น 10 บาท บางครั้งไหลหมดกันไปคนละเป็น 100 บาทก็มี บางครั้งโชคดีนายจ้างก็เอาเหล้ามาเลี้ยงบ้าง แต่การดื่มตอนนั้นไม่ได้ไปหาเรื่องกับใครที่ไหน มีแต่พวกอื่นมาหาเรื่องก็พวกทำงานอยู่ด้วยกัน

 

          “จนมาช่วงอายุ 40 ปี เพิ่งได้มาเจอแฟน ตอนนั้นแฟนเข้ามาขายของอยู่ในที่ทำงาน เราก็เข้าไปจีบและตกลงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ช่วงนั้นเราก็ยังดื่มเป็นปกติเหมือนเดิม แต่พอดื่มมากๆ เข้าเหตุการณ์ในครอบครัวเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นคนไม่สนใจครอบครัว บางครั้งถึงขนาดจะเลิกรากัน จึงตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านที่สุรินทร์ แต่พฤติกรรมการดื่มของเราก็ไม่เปลี่ยนแปลง ลูกคนโตจะเตือนบอกพ่อบ่อยๆ ให้เลิกดื่มแล้วหันมาดูแลสุขภาพบ้าง เราจะฟังลูกคนนี้มากแต่ก็ยังไม่เลิกเด็ดขาด”

 

          พ่อสีเล่าอีกว่า ช่วงที่ดื่มในหมู่บ้านนี้ต้องบอกว่าเป็นนักดื่มที่ชาวบ้านเอือมละอา เพราะพอดื่มแล้วชอบคุยชอบสอนแต่ตัวเองทำไม่ได้ บางครั้งชาวบ้านต้องเดินหนี แต่พอดีมีโครงการของพระมหาวีระที่ทำเกี่ยวกับเลิกเหล้า ญาติๆ ก็พาตนเข้าโครงการ และในขณะนั้นเองสุขภาพเริ่มมีปัญหาจึงเข้าไปหาเพื่อเลิกเหล้า ตนก็สัญญากับพระมหาวีระว่าจะเลิกแต่เลิกได้ประมาณ 4-5 วัน ก็แอบไปดื่มอีก จึงทำให้สภาพร่างกายทรุดโทรมหนักขึ้น

 

          จนมาวันหนึ่งมีโครงการ “ค่ายสร้างสุข ยอดคุณพ่อเลิกเหล้า” ติดต่อให้เข้าร่วมโดยผ่านพระมหาวีระและให้แฟนเป็นคนชวน ก็ตกปากรับคำจะไป พอมาถึงค่ายแล้วร่างกายเราก็ไม่สมบูรณ์จึงทำให้ร่วมกิจกรรมได้ไม่เต็มที่เพราะไม่มีเรี่ยวแรง แต่กิจกรรมภายในค่ายทำให้ตนคิดได้ว่าเราก็ทำให้ลูกเมียต้องลำบากจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะเลิก ครอบครัวก็ให้กำลังใจทั้งคนรอบข้างดีใจกันหมด พอกลับบ้านแฟนก็ทำอาหารที่เราชอบให้กิน แฟนบอกว่าถ้ากินเหล้าอยู่จะไม่ทำอาหารพวกนี้ให้กินอีก ส่วนลูกคนโตก็ส่งเงินมาให้เรา ทำให้คิดว่าเมื่อก่อนเคยนำเงินลูกมาซื้อเหล้ากินก็ทำให้รู้สึกละอายใจ

 

          “ลูกที่มาเข้าค่ายก็คอยบอกย้ำๆ อยู่เสมอให้พ่อเลิกเหล้า ผมคิดว่าค่ายนี้ทำให้เราเลิกเหล้าได้อย่างเด็ดขาด และฝากบอกถึงคนที่ดื่มอยู่ด้วยว่าการที่จะคิดเลิกเหล้าจริงๆ มันอยู่ที่ใจ” พ่อสี กล่าว และทิ้งท้ายว่า หลังจากกลับเข้าค่ายสร้างสุขร่วมกับทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตนเองต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเพราะหยุดหายใจ แต่ก็มีจิตใจที่เข็มแข็งผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมาได้แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

Update 19-02-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์