พื้นที่สร้างสรรค์ใช้ ‘กีฬา’ เป็นสื่อพัฒนาเยาวชน
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า
ภาพประกอบจากเว็บไซต์แนวหน้า
“กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ” และ “เยาวชนในวันนี้คือกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ” เป็นคำกล่าวที่แสดงให้เห็นว่า ทั้ง “เยาวชน” และ “กีฬา” ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ หากเราสามารถปลูกฝังและพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้เป็นคนดีมีคุณธรรม มีความรู้ความสามารถ ควบคู่ไปกับการมีสุขภาวะที่ดี ประเทศชาติก็จะสามารถก้าวไปสู่อนาคตที่มั่นคง
ท่ามกลางสภาพสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบไปทุกพื้นที่ทั้งสังคมในเมืองและในชนบท สิ่งเร้าต่างๆถูกกระตุ้นผ่านสื่อยุคใหม่ที่เข้าถึงได้ไม่ยาก สำหรับเยาวชนแล้วนับเป็นความเปราะบางอย่างมาก หากขาดภูมิคุ้มกันที่ดีพอก็อาจถูกชักจูงไปในทางที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย
ที่ บ้านวังกุ่ม หมู่ที่ 4 ต.บางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง แม้จะเป็นพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล แต่เด็กและเยาวชนก็สามารถเข้าถึงสื่อยุคใหม่ได้ทัดเทียมกับในเมืองใหญ่ แม้ร้านเกมจะมีน้อย แต่พฤติกรรมเยาวชนติดเกมส์ก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ย้ายจากร้านมาอยู่บนสมาร์ทโฟนแทน สร้างความกังวลให้ผู้ปกครองไม่น้อย ขณะที่เยาวชนบางส่วนใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนหรือช่วงวันหยุดขับขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวเล่นอย่างไร้จุดหมายมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงในด้านต่างๆ เนื่องจากขาดพื้นที่ให้เด็กได้มีกิจกรรมในเชิงสร้างสรรค์ ความกังวลเหล่านี้จึงทำให้กลุ่มผู้ใหญ่ใจดีในพื้นที่คิดหาทางออกเพื่อแก้ปัญหา
นายวสันต์ คงลา ซึ่งมีพื้นฐานด้านพลศึกษาและรักในการเล่นกีฬาโดยเฉพาะการเล่นฟุตบอลจึงปรึกษาหารือกับผู้ที่ชื่นชอบในเกมกีฬาร่วมกันจัดทำ “โครงการลานกีฬาสร้างสรรค์ เยาวชนเสริมสร้างทักษะกีฬาฟุตบอล” โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมีแรงหนุนเสริมจาก องค์การบริหารส่วนตำบลบางหินโดยเฉพาะผู้ปกครองของเยาวชนที่ออกแรงมาเชียร์บุตรหลานทุกครั้ง ตั้งแต่การเข้าค่ายฝึกอบรมจนถึงการแข่งขันในสนาม
เพราะทุกๆ ต้นปีจะมีการแข่งขันกีฬาประจำตำบลบางหินทั้งฟุตบอล วอลเลย์บอล และตะกร้อ ทุกหมู่บ้านก็จะส่งนักกีฬาเข้ามาร่วมแข่งขัน แต่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการแข่งขันมักเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน เด็กเล็กและเยาวชนขาดโอกาสในการเข้าร่วมทุกครั้ง อย่างมากเป็นได้แค่กองเชียร์ ทำให้เยาวชนเหล่านี้หันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่เป็นพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนจากเยาวชนบางส่วนที่ต้องการมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เพื่อแสดงศักยภาพของตนเอง
หลังจากเปิดตัวโครงการและประกาศรับสมัครเยาวชนออกไปก็ได้รับความสนใจจากทั้งเด็กและผู้ปกครอง มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการถึง 40 คน และยังมีเด็กๆ จากหมู่บ้านใกล้เคียงขอสมัครร่วมกิจกรรมด้วย รวมทั้งสิ้น 55 คน แบ่งได้เป็น 3 รุ่น คือ รุ่น 6-11 ปี รุ่น 13 ปี และรุ่น 16 ปี และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนในการเข้าแข่งขันกีฬาประจำปีของตำบล จึงได้จัดให้มีการเข้าค่าย เรียนรู้ทักษะเรื่องการเล่นฟุตบอล โดยเชิญวิทยากรที่มีความรู้มาสอนตั้งแต่เรื่องกฎกติกา พื้นฐานการเล่นฟุตบอล โดยมี อบต.บางหิน ให้การสนับสนุนชุดกีฬา และมีผู้ร่วมบริจาคสมทบอีกด้วย
นอกจากจะอบรมเรื่องกีฬาแล้วผู้ฝึกสอนยังสอดแทรกความรู้ด้านสุขภาวะ ฝึกระเบียบวินัย ควบคู่ไปกับเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม รวมทั้งการบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะไว้ในกิจกรรมต่างๆ ด้วย เช่น การเก็บขยะ เมื่อเสร็จสิ้นค่ายอบรมทักษะฟุตบอลแล้ว ก็จะมีการฝึกซ้อมในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ ยกเว้นวันที่มีฝนตกไม่สามารถใช้สนามฟุตบอลได้
“ช่วงที่เราทำค่ายฝึกอบรมผู้ปกครองก็มาเฝ้าลูกหลาน และก็อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้เรื่อยๆ เพราะผู้ปกครองไม่ต้องกังวลว่าเด็กจะไปออกนอกลู่นอกทางในวันปกติเด็กๆ ก็จะไปเล่นฟุตบอลกันที่สนามของหมู่บ้านผู้ปกครองก็ไม่ต้องเป็นห่วง รู้ว่าอยู่ที่ไหน สามารถตามตัวได้เพราะโดยปกติผู้ปกครองที่มีอาชีพทำไร่ทำสวนจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลเด็กมากนัก การเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเล่นกีฬาจึงเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กเอง บางคนมีแววดีขยันฝึกซ้อมเราก็สนับสนุนส่งไปคัดตัวนักเตะเยาวชนของจังหวัดก็เป็นโอกาสของเด็กที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล” นายวสันต์ระบุ
ความสำเร็จเบื้องต้นของโครงการคือการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีกิจกรรมสร้างสรรค์ ได้ออกกำลังกาย โดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อสร้างสรรค์ดังเยาวชนให้ห่างไกลอบายมุขต่างๆ ส่วนจะมีช้างเผือกได้รับการคัดเลือกไปเป็นนักฟุตบอลในระดับที่สูงขึ้นหรือไม่ เป็นเพียงผลพลอยได้ที่มาพร้อมกับความสุขของสมาชิกทุกคนในชุมชนแห่งนี้