พี่สอนน้องฯ “ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้”

          มีการสำรวจพบว่า อุบัติเหตุทางน้ำ มีหลายครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งคนในแต่ละครั้ง กล่าวคือ นอกจากผู้เสียชีวิต ไม่ใช่มีเพียงผู้ประสบอุบัติเหตุ แต่ผู้ที่เข้าไปช่วยหลายครั้ง ที่ต้องสังเวยชีวิต ไปกับผู้ประสบเหตุ

          เพื่อให้เป็นช่องทาง ในการลดอุบัติเหตุทางน้ำ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร, กรมพลศึกษา และบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย "ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้"

          โครงการนี้ได้เริ่มจัดอบรมเป็นรุ่นที่ 1 เมื่อวันเสาร์ที่ 15 และวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่สระว่ายน้ำวิสุทธารมณ์ สนามกีฬาแห่งชาติโดยมีน้องๆ เยาวชนกว่าร้อยคนจากศูนย์กีฬา ชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร หรือผู้ปกครองนำมา มาเข้าร่วมในโครงการนี้อย่างคึกคัก

          "ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้" ตามนิยามของโครงการ เป็นการฝึกสอนแนะนำเยาวชนที่เข้าร่วม ที่ว่ายน้ำไม่เป็น ให้เป็น เล่นน้ำได้ และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างถูกวิธี โดยมีอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนว่ายน้ำทีมชาติไทย อ.วรพงษ์ พัชรวิชญ์, อ.สกล เกิดการบุญ รองหัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬาทางน้ำ และวิทยาการ ผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ จากสมาคมกีฬาทางน้ำมาร่วมเป็นวิทยากร ในตลอดสองวัน เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ในการฝึกอบรม

          "ครูเอก" จารุวัฒน์ สำเภา หนึ่งในวิทยากร ได้กล่าวว่า การฝึกอบรม จะแนะนำทักษะ การว่ายน้ำ การช่วยเหลือตัวเอง เช่น ขณะรู้ว่าจะจมน้ำ ต้องไม่ว่ายน้ำออกไป ต้องประคองตัว เพราะหากออกแรงว่าย จะทำให้เกิดตะคริว จะมีอันตรายกับชีวิตมากขึ้น ต้องมีทักษะในการลอยตัว

          หรือการจะเข้าช่วยเหลือผู้อื่น ต้องทำให้ถูกวิธีในการ ยื่น โยน หรือลุย หมายถึงว่า หากเห็นคนจมน้ำ จะยื่นแขน หรือสิ่งของช่วยเหลืออย่างไร จะไม่เป็นอันตรายต่อเรา การโยนเชือก เพื่อช่วยเหลือผู้จมน้ำจะโยนไปทิศทางใด ตรงไหน ในการจะช่วยผู้ที่กำลังจะจมน้ำ หรือลุยว่ายลงไปช่วย จะช่วยอย่างไรกับผู้จะจมน้ำ และให้ตัวเราปลอดภัย เช่นนี้เป็นต้น

          นอกจากการอบรมให้เยาวชนที่ร่วมโครงการนี้จึงมีนักว่ายน้ำทีมชาติอย่าง รดมยศ มาตเจือ และ สาริศ ธิวงศ์ มาร่วมให้คำแนะนำเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการ พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย "ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้" รุ่น 1 นี้ด้วย

          กับความรู้สึกของผู้ปกครองของผู้ร่วมโครงการ นางพรเพ็ญ อินทรสัตกุล มารดา รักไทย อินทรสัตกุล หรือ น้องเต๊ง นักเรยนชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ได้กล่าวว่า พอทราบว่ามีโครงการนี้ จึงให้ลูกชายคนโต อดีตนักฟุตบอลที่ตอนนี้มาเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นของโรงเรียนมาเข้าโครงการ ซึ่งปกติก็ว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว แต่มาเพื่อเสริมทักษะ จากสองวันที่ผ่านมาได้เห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์มาก ทั้งการฝึกฝนให้ตนเองปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางน้ำ และยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างถูกวิธี

          "คิดว่าจะให้ลูกสาวคนเล็ก ตอนนี้อายุเก้าขวบ มาเข้าโครงการนี้ เพราะเป็นโครงการที่ดีค่ะ" คุณแม่ลูกสองกล่าวภายหลังการฝึกอบรมโครงการ พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย "ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้"

          ข้อแนะนำ สำหรับศูนย์กีฬา ชุมชนหรือผู้ปกครอง ที่จะส่งเยาวชนเข้าร่วมโครงการควรมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว หรือโรคติดต่อที่เป็นอันตราย สามารถช่วยเหลือตนเองได้ติดต่อขอรับใบสมัครได้และส่งได้ที่ บมจ.สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด หรือที่ศูนย์กีฬา และโรงเรียนที่ร่วมโครงการทั้ง 6 แห่ง

          ส่งใบสมัครได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันแรกของการฝึก ของแต่ละแห่ง พร้อมแนบสำเนาสูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่สามารถระบุวัน เดือน ปี เกิด และใบรับรองแพทย์ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมรับเสื้อและกระเป๋าเพื่อใช้ในการฝึกอบรม และจะได้รับใบประกาศนียบัตร หลังผ่านการฝึกอบรมจากโครงการ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ WWW.SIAMSPORT.CO.TH 

     ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามกีฬา

     ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต