พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย รุ่น 2
นับเป็นโครงการดีอีกโครงการสำหรับ “พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย” ที่มี 3 หุ้นส่วนสำคัญอย่าง สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร และ บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จัดให้นักกีฬาทีมชาติ, อดีตโค้ชทีมชาติ มาสอนน้องๆ เยาวชนๆ อายุระหว่าง 10-15 ปีใน 5 ชนิดกีฬา ตลอดเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ 2556 แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส ประธานกำกับทิศแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด และ เกมส์คอมพิวเตอร์ เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สามารถเสริมสร้างพัฒนาการทางกายและจิตให้สมวัย ซึ่งโครงการนี้ได้รับความสนใจจากเด็กๆน้องๆเยาวชนในเขตกรุงเทพและปริมลฑลด้วยดีตลอดระยะเวลาที่เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2552
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาทีมชาติและอดีตโค้ชทีมชาติได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการต่อเนื่องเพราะเป็นโครงการที่เสริมสร้างขีดความสามารถด้านพัฒนาการกีฬาของเยาวชนอย่างแท้จริง “ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดีจากวิทยากรของโครงการ เพราะนักกีฬาและอดีตโค้ชใน 5 ชนิดกีฬาที่เราเลือกอบรมนั้นมองว่าเป็นโอกาสดี เนื่องจากในวัยเด็กของนักกีฬาและโค้ชเอง การเข้าถึงกีฬาที่ตัวเองรักตัวเองชอบนั้นน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เรียนรู้เทคนิคการเล่นกีฬากับฮีโร่ตัวจริงของพวกเขา ก็ยิ่งทำให้เขาได้รับแรงบันดาลใจในการฝึกซ้อมยิ่งขึ้น”
สำหรับโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากน้องเยาชนอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้ได้เริ่มเปิดอบรมมาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา สนามแรกที่ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ สนามที่ 2 ศูนย์กีฬารามอินทรา สนามที่ 3 โรงเรียนทวีทวีธาภิเศก สนามที่ 4 ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ และสนามที่ 5 ศูนย์เยาวชนคลองเตย ใน 5 ชนิดกีฬา คือบาสเกตบอล ,ฟุตบอล,ฟุตซอล,วอลเล่ย์บอล และว่ายน้ำ โดยจะสิ้นสุดศูนย์สุดท้ายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 นี้
“โครงการนี้ สสส. มีจุดประสงค์มุ่งเน้นให้เด็กสนใจในกีฬา เพราะการเล่นกีฬาในเด็กเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพทางกายดีแล้ว สุขภาพจิตจะดีตามไปด้วย ช่วยให้รู้จักเคารพในกติกาของกีฬาแต่ละอย่าง รู้แพ้รู้ชนะ มีน้ำใจนักกีฬา และมักจะไม่หันเหไปมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และจะเห็นได้ว่าปัญหาเด็กและเยาวชน แม้จะบอกว่าเป็นปัญหาเชิงพฤติกรรมที่ไม่สามารถใช้เงินเพียงอย่างเดียวในการแก้ไข แต่หากใช้ความเข้าใจว่าเด็กและเยาวชนเหล่านั้นคิดอะไร ต้องการอะไร รวมถึงต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สถานศึกษา ภาครัฐโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมไปถึงสื่อมวลชน ดังจะเห็นได้จากหลายๆ พื้นที่ ที่หากชุมชนเข้มแข็ง ปัญหาเยาวชนก็จะลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน” ประธานกำกับทิศทางแผนส่งเสริมกิจกรรมของสสส.กล่าวถึงจุดประสงค์ของโครงการ
ส่วนคุณสมบัติของเยาวชนที่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการนั้น ต้องเป็นเยาวชน ชาย-หญิงอายุระหว่าง 10-15 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล หรือใกล้เคียงกับศูนย์กีฬาที่จะเปิดให้การอบรม โดยโครงการจะดูแลเรื่องอาหาร ชุดที่ใช้ในการอบรมให้ทั้งหมด
ความน่าสนใจสำหรับน้องๆ ทุกคนที่เข้ามาในโครงการนี้ อยู่ตรงที่ต่างมีความฝันอยากเก่ง หรือเล่นกีฬาโปรดของตัวเองให้เหมือนกับพี่ๆ นักกีฬาทีมชาติ ทำให้ความสัมฤทธิ์ผลของโครงการเป็นที่น่าพอใจตรงที่ความมุ่งมั่นของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการนั้นชัดเจนและมุมานะกว่าการสอนในรูปแบบอื่นๆ เท่าที่สสส.เคยทำโครงการมา เพราะแม้ต้องตื่นเช้ากว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน หรือต้องทำการบ้าน หน้าที่ความรับผิดชอบในครอบครัวให้เสร็จ เพื่อจัดสรรเวลาเข้าร่วมการอบรม น้องๆเยาวชนเหล่านี้ไม่ปริปากแม้แต่น้อย
น่าชื่นใจแทนน้องๆเยาวชนในวันนี้จริงๆที่มีผู้ใหญ่ใจดีให้เรียนกีฬากับฮีโร่ตัวจริงของพวกเขาแบบไม่ต้องลงคอร์สเสียค่าใช้จ่าย และช่วยให้พวกเขาสามารถใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับการพัฒนาร่างกายและจิตใจ สำหรับน้องๆเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2508-8274
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ