พัฒนาศักยภาพเยาวชน ป้องกันอุบัติเหตุทางถนน
ให้ความรู้กับกฎจราจร การขับขี่
จากสภาพปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เป็นสาเหตุสำคัญในการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชนซึ่งนับวันจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากข้อมูลสถิติการบาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันพบว่าอุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ
อุบัติเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดจากกลุ่มผู้ขับขี่ยานพาหนะที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งเป็นเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15 – 24 ปี โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ เป็นกลุ่มเสี่ยงอันดับต้นๆ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะสรรหายุทธวิธีในการป้องกันอุบัติเหตุในหลายๆ รูปแบบ แต่ก็ยังไม่สามารถลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเยาวชนลงได้
ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจากความคึกคะนองในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นลอยกระทง เทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเยาวชนจะดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเกิดความคึกคะนองออกมาขับขี่ยานพาหนะอย่างไร้สติและขาดความระมัดระวัง
เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนซึ่งเกิดกับเด็กและเยาวชน ตำรวจภูธรภาค 4 จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเริ่มที่ระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎจราจร การขับขี่อย่างปลอดภัย และเยาวชนกลุ่มนี้จะสามารถจัดการจราจรในสถานศึกษา เป็นผู้ช่วยตำรวจจัดการจราจรบนถนน มีจิตสำนึกที่จะช่วยเหลือผู้อื่นรวมถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้รถใช้ถนน อันจะเป็นการป้องกันแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนในระดับรากหญ้า และจะสามารถลดอุบัติเหตุลงได้ ซึ่งการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวนี้ มีขั้นตอนดำเนินการอยู่ 2 กิจกรรม คือ
กิจกรรมที่ 1 การสัมมนาเชิงปฏิบัติการคณะทำงานและครูฝึก
จัดกิจกรรมสัมมนาและฝึกอบรมเยาวชนเพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นอาสาจราจร โดยอันดับแรกจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงานของคณะทำงาน วิทยากรและครูฝึก เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของโครงการ กระบวนการฝึกอบรม รวมถึงได้มีการร่วมมือวางแผนการทำงานร่วมกัน ดังนั้นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการของคณะทำงานและครูฝึก จึงควรดำเนินการเป็นลำดับแรกเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เข้าใจกระบวนการฝึกอบรมเยาวชนเป็นอาสาจราจร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงการขับเคลื่อนการขยายเครือข่ายของเยาวชนในสถานศึกษาและในชุมชน
กิจกรรมที่ 2 การฝึกอบรมเยาวชนเป็นอาสาจราจร
จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน พบว่าเป็นสาเหตุอันเนื่องมาจากเด็กและเยาวชน ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกฎจราจร การขับขี่อย่างปลอดภัย ดังนั้นจึงเกิดโครงการนี้ขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อสร้างวินัยในการขับขี่รถอย่างปลอดภัย สามารถจัดการจราจรภายในสถานศึกษาและเป็นผู้ช่วยตำรวจในการจัดการจราจรและสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดสู่เพื่อน พี่ น้อง ในสถานศึกษาและขยายผลไปสู่ญาติและบุคคลใกล้ชิดในครอบครัว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากการใช้รถใช้ถนนในชุมชนต่อไป
ตำรวจภูธรภาค 4 ทดลองใช้โครงการนี้โดยเลือกตำรวจภูธรจังหวัด 4 แห่งเป็นจังหวัดนำร่องคือ จ.ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร และ ร้อยเอ็ด
สำหรับ จ.ร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการตามโครงการนี้แล้วจำนวน 5 รุ่นๆ ละ 60 คน โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด คือ พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ
ใช้เวลาการฝึกอบรมเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่มีการคัดเลือกโดยครูผู้ปกครองในสถานศึกษา คัดเลือกจากนักเรียนนักศึกษาที่เรียนอยู่ในชั้น ม.4 – ม.5 หรืออายุระหว่าง 15 – 18 ปี ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ได้และใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ประการสำคัญจะต้องมีพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนน ขับขี่รถด้วยความประมาท ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ขับขี่โลดโผนและขับรถเร็ว
การฝึกอบรมจะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพี่เลี้ยง ครูฝ่ายปกครองเป็นที่ปรึกษาดำเนินการฝึกอบรมทั้งในสถานีตำรวจและค่ายทหารในกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 16 ค่ายประเสริฐสงคราม อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ใช้เวลาในการอบรม 4 วัน 3 คืน
นอกจากฝึกอบรมภาคทฤษฎีให้รู้จักกฎจราจรแล้วยังฝึกอบรมภาคปฏิบัติในโรงพยาบาล ให้รับรู้ถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ อบรมที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและขนส่งจังหวัด
ซึ่งเป็นโครงการที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเยาวชนในการช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน และการจัดระบบการจราจรภายในสถานศึกษาของตนเองและชุมชน และให้ผู้ที่ผ่านการอบรมแล้วขยายเครือข่ายไปยังกลุ่มเยาวชนอื่น โดยการตั้งเป็นชมรมที่จะต้องมีสมาชิกอย่างน้อยชมรมละ 50 คน เพื่อขยายผลต่อๆ ไป
สำหรับงบประมาณในการฝึกอบรมและค่าใช้จ่ายในกิจกรรมหลังการฝึกอบรม เช่นอุปกรณ์สำหรับการจัดการจราจรนานาชนิดอีกด้วย โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวน 6,260,000 บาท
ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด โดย พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ ดำเนินการครบถ้วนไปแล้วทั้ง 5 รุ่น เยาวชนที่ผ่านการอบรมไปแล้วรวมทั้งสิ้นจำนวน 300 คน
ที่มา: เว็บไซต์ประชาทรรศน์
update: 27-10-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย