พลิกฟื้นประเพณีสงกรานต์ รณรงค์เล่นน้ำ“ปลอดเหล้า”ทั่วไทย
ผ่านพ้นไปอีกปีแล้ว สำหรับเทศกาลวันสงกรานต์ เทศกาลแห่งความสุข สนุกสนานที่หลายคนรอคอย และเป็นที่น่ายินดีว่าจากภาพรวมในช่วง 7 วันอันตราย มียอดอุบัติเหตุลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 301 ครั้ง หรือ 8.56% ยอดเสียชีวิตลดลง 90 ราย หรือ 24.93% และบาดเจ็บลดลง 326 ราย หรือ 8.57%
หลังจากที่ผ่านมา หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ได้มีการรณรงค์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีการจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ขึ้นในหลายพื้นที่ ทำให้อุบัติเหตุซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับลดลงได้มาก
จากการที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับผู้บริหารในส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น รวมทั้งประชาคมในพื้นที่ ขยายเครือข่ายภาคีร่วมจัดงาน “สงกรานต์ปลอดเหล้า” โดยจัดเขตพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย (zoning) เพิ่มขึ้นเป็น 60 แห่งใน 44 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนตระกูลข้าว ไม่ว่าจะเป็น ถนนข้าวเม่า จ.มหาสารคาม ถนนข้าวก่ำ จ.กาฬสินธุ์ ถนนข้าวปุ้น จ.นครพนม ถนนข้าวฮาง จ.สกลนคร ถนนข้าวเปียก จ.อุดรธานี ถนนข้าวหลาม จ.เลย ถนนข้าวทิพย์ จ.จันทบุรี ถนนข้าวโพด จ.เพชรบูรณ์ ถนนข้าวหอมมะลิ จ.ร้อยเอ็ด ถนนข้าวแต๋น จ.น่าน ถนนข้างฮาง จ.หนองบัวลำภู ถนนข้าวสุก จ.อ่างทอง ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ตลอดจนถนนท่าแพ จ.เชียงใหม่ และอีกหลายๆ จังหวัด นับว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนและทางจังหวัดเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ที่ถือว่าเป็นสงกรานต์ปลอดเหล้าถนนตระกูลข้าวต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย ที่สามารถสร้างนวัตกรรมคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ ที่มีผู้ร่วมกิจกรรมมากที่สุดในโลกกว่า 50,000 คน บันทึกลงกินเนสบุ๊ค ถือเป็นการสร้างกระแสการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อปรับเปลี่ยนค่านิยมของสังคมไทย คือสนุกได้โดยไม่ใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลสงกรานต์อย่างมีประสิทธิภาพ
ถือเป็นพื้นที่ดีๆ ให้เด็กเยาวชนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เป็นศูนย์รวมแห่งความร่วมมือร่วมใจของประชาชนคนขอนแก่น เนื่องในวาระปีแห่งความภูมิใจของคนขอนแก่น ที่รวมพลังแสดงออกถึงความสามัคคี มีน้ำใจ และมีกติการ่วมกันบนถนนข้าวเหนียวคือ “ไม่ขาย ไม่ดื่ม ไม่เมา ไม่ทะเลาะวิวาท ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้คนขอนแก่น” จนสามารถสร้างค่านิยมใหม่ให้เด็กเยาวชนลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสงกรานต์ลงอย่างได้ผลเชิงประจักษ์อย่างชัดเจน เช่น ลดปัญหาอุบัติเหตุ อาชญากรรม การลวนลาม เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีถนนตระกูลข้าวในภาคอีสานอีกหลายจังหวัด ที่พ่อเมืองให้ความสำคัญโดยการจัดงานสงกรานต์แบบสนุกปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น ถนนข้าวก่ำ จ.กาฬสินธุ์ ที่ยังคงความยิ่งใหญ่ของการจัดงานเช่นทุกปี พร้อมกับเฝ้าระวังและรณรงค์เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเต็มที่ ถนนข้าวเม่า จ.มหาสารคาม ที่เน้นจุดเด่นในการสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ และผู้สูงอายุ การชิมข้าวเม่าถาดยักษ์ ควบคู่ไปกับการเล่นน้ำอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย ปลอดเหล้า
และ ถนนข้าวหลาม เชียงคาน จ.เลย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และเมื่อไปถึงก็ไม่ผิดหวังเพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่นแล้ว ยังได้เล่นสาดน้ำแบบสบายใจ ไม่มีการทะเลาะวิวาทให้เห็น เนื่องจากเป็นสงกรานต์ที่ไร้แอลกอฮอล์ เป็นต้น
ส่วนถนนท่าแพ จ.เชียงใหม่ นับว่าเป็นพื้นที่เล่นน้ำที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งในปีนี้มีประชาชนแห่ไปเล่นน้ำสงกรานต์รอบคูเมืองเป็นจำนวนมาก และได้มีการโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าอย่างจริงจัง โดยจะเห็นได้จากการที่นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่คุมเข้ม นำกำลังเทศกิจตรวจจับ พร้อมกับยึดของกลางที่พ่อค้า แม่ค้า ละเมิดกฎหมายโดยการแอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ห้ามขาย ทั้งที่ได้มีการแจ้งล่วงหน้านานนับเดือนแล้ว
นอกจากนี้ เครือข่ายเยาวชนเฝ้าระวังภัยแอลกอฮอล์ 7 สถาบัน ยังได้ร่วมกันรณรงค์ให้พื้นที่ช่วงท่าแพ เป็นพื้นที่สีขาว ปลอดภัย ปลอดเหล้า เพื่อความสงบเรียบร้อย และคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีล้านนาอันดีงาม ทั้งนี้ จากการโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าในหลายจังหวัด พบว่า พฤติกรรมการเล่นน้ำแบบ รุนแรง ลวนลาม อนาจาร ลดน้อยลงมาก หรือแทบไม่มีให้เห็นเลย ซึ่งต่างจากพื้นที่ที่ไม่ได้โซนนิ่งอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น กรณีถนนสีลม เป็นต้น
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ทุกจังหวัดจะหันมาให้ความสำคัญกับคุณค่าของเทศกาลสงกรานต์ ที่สร้างความสุขอย่างปลอดภัย ตลอดจนปกป้องเยาวชนซึ่งเป็นลูกหลานของท่าน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อธุรกิจน้ำเมา ที่พยายามหลอกล่อทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม การตลาดที่ไม่รับผิดชอบ เช่น sexy marketing ซึ่งทำให้เยาวชนหลงผิด
เชื่อว่าหากทุกจังหวัดและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างจริงจังในการจัดเขตพื้นที่เล่นน้ำ ปลอดเหล้า ปลอดภัย จะลดปัญหาต่างๆลงได้มาก ซึ่งจะเป็นการรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม และการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของสังคมไทยไว้
ที่มา: สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า