พลังภาคี หนุนกองทุนสื่อดี เพิ่มพื้นที่สื่อสร้างสรรค์

สื่อไม่ดี ห่วงพฤติกรรมทางเพศ ความรุนแรง และบริโภคนิยม ของเด็ก

พลังภาคี หนุนกองทุนสื่อดี เพิ่มพื้นที่สื่อสร้างสรรค์ 

          ปัจจุบัน สื่อ ได้รุกคืบเข้ามามีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของเด็กเพิ่มขึ้นทุกขณะ ด้วยสาเหตุสภาพครอบครัว และชุมชนที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เด็กใช้เวลาอยู่กับสื่อ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ ภาพยนตร์ นิตยสาร เกมคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต เทป วีซีดี โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ มากกว่าการทำกิจกรรมอื่น ๆ สื่อกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทรงอิทธิพลมากในการถ่ายทอดค่านิยม ทัศนคติ และแบบอย่างแก่เด็ก แต่สื่อที่มีอยู่ในปัจจุบันมักเป็นสื่อที่เปิดกว้างและสามารถเข้าถึงกลุ่มคนทุกวัย เด็กจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเสพสื่อซึ่งมีเนื้อหาไม่เหมาะสม โดยเฉพาะพฤติกรรมทางเพศ ความรุนแรง และบริโภคนิยม มีข้อมูลทางวิชาการรายงานว่า เด็กและเยาวชนใช้เวลาดูโทรทัศน์มากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน มากกว่าการอ่านหนังสือ 5 เท่า และส่วนใหญ่ดูโทรทัศน์เพื่อการบันเทิงมากกว่าหาความรู้

 

          ธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างรวดเร็วในยุคข้อมูลข่าวสารที่ไร้พรมแดนในทศวรรษนี้ สื่อได้กลายเป็นกลไกและช่องทางในการสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่มีศักยภาพ ทุกวันนี้สื่อสารมวลชนได้เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลในการชี้นำสังคมจนมีผลต่อรูปแบบวิถีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนในสังคมเป็นอย่างยิ่ง ผลจากการพัฒนาที่กล่าวมา นอกจากจะยังประโยชน์ให้เกิดกับสังคมในบางมิติแล้ว ในทางกลับกันพบ ว่า การนำเสนอข้อมูลข่าวสารทั้งประเด็นเนื้อหา สาระ และเรื่องราวในสื่อบันเทิงต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดไปสู่สังคม หากผู้ประกอบการขาดจริยธรรมและความตระหนักรับผิดชอบต่อสังคม ย่อมเกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตที่สร้างความเสียหายขึ้นกับสังคมโดยรวมได้ โดยเฉพาะกับพฤติกรรมเลียนแบบที่   ขัดต่อบรรทัดฐานที่ดีงามของสังคม ทั้งในเรื่อง เพศภาษา และความรุนแรง ที่ปรากฏในสื่อทุกประเภทเพื่อให้มีผู้ผลิตสื่อที่มีคุณภาพ และมีสื่อที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว เพิ่มมากขึ้น แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย จัดงานมหกรรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 1  พลังภาคี หนุนกองทุนสื่อดี เพิ่มพื้นที่สื่อสร้างสรรค์ ขึ้นเมื่อวันที่ 13-14 พ.ย. ที่ผ่านมา

 

          เข็มพร วิรุณรา พันธ์ ผู้จัดการแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน กล่าวถึงงานดังกล่าวว่า  แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกิดสื่อที่มีคุณภาพ และมีสื่อที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเกิดกระบวนการพัฒนาคุณภาพสื่อสำหรับเด็กให้เหมาะสมกับความต้องการในการเรียนรู้ และมีเนื้อหาที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาสุขภาวะของเด็ก เยาวชน ในแต่ละช่วงวัย โดยแผนงานได้พัฒนางาน ดังกล่าวมาแล้วเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี เกิดเครือข่ายคณะทำงานสื่อเพื่อเด็กจำนวนมาก ผลักดันให้เกิดหลักสูตรการเรียนรู้เท่าทันสื่อ ทั้งในและนอกระบบการศึกษาจากหลากหลายแขนงสื่อ  พื้นที่ ฯลฯ การจัดงานครั้งนี้เป็นการรวมเครือข่ายคณะทำงานสื่อเพื่อเด็กในประเทศไทย เพื่อประมวลสถานการณ์สื่อในปัจจุบัน และการนำเสนอรูปแบบการทำงานของสื่อเพื่อเด็ก พร้อมทั้งจัดเวทีระดมความคิดเห็นประเด็นการทำงานสื่อเพื่อเด็ก เพื่อส่งมอบให้แก่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสื่อเพื่อเด็กและเยาวชนต่อไป

 

          ในงานดังกล่าวนอกจาก จะมีการประชุมสัมมนาห้องย่อยเพื่อทบทวนสถานการณ์สื่อประเภทต่าง ๆ ที่มีผลกระทบกับสังคมพร้อมแนวทางแก้ไขปัญหา การนำเสนอรูปแบบการทำงานของสื่อเพื่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน การจัดแสดงผลงาน นิทรรศการ และการแสดงสื่อทางเลือกของเครือข่ายสื่อเพื่อเด็ก ยังมีการระดม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางในการดำเนินงานด้านสื่อเพื่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน โดยเรื่องที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็หนีไม่พ้นเรื่องกองทุนสื่อสร้างสรรค์เพื่อเด็ก

 

          ร่าง พ.ร.บ. กองทุนสื่อสร้างสรรค์มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกิดสื่อดี และผู้ผลิต สื่อดีในสังคม เกิดจากการผลักดันของเครือข่ายเยาวชนและครอบครัวที่เดินหน้าต่อเนื่องมา เป็นปีที่ 3 น่ายินดีว่ารัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมี พล.ต.สนั่น  ขจรประศาสน์ รองนายกฯ เป็นประธาน ซึ่งขณะ นี้คณะกรรมการดังกล่าวได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. กองทุนสื่อสร้างสรรค์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ให้ รมว.วัฒนธรรมนำเสนอเข้า ครม. และไป สู่สภาตามขั้นตอน ซึ่งงบประมาณส่วนหนึ่งจะ มาจาก ร่าง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้มีความคืบหน้าไปมากรศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผอ.สำนักรณรงค์และสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคม สสส.กล่าวสรุป

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Update 30-11-52

อัพเดทเนื้อหาโดย :  อภิชัย วรสิทธิ์ขจร

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code