พลังจิตอาสา เยาวชน Gen A สู่ “ตุ๊กตาวิเศษ” เยียวยาจิตใจ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
ในที่สุด 'ตุ๊กตาวิเศษ' ผลงานสร้างสรรค์สังคมจากนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะสื่อสารมวลชน ม.เชียงใหม่ ก็คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดโครงการจิตอาสาเปลี่ยนประเทศ ประจำปี 2559 และโครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย ปีที่ 5
ภายใต้แนวคิด Gen A (Generation Active) หรือ พลังพลเมืองจิตอาสาเปลี่ยนประเทศ ที่จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิธรรมดี กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
โครงการตุ๊กตาวิเศษ เป็นหนึ่งในทีมเยาวชนจากผู้สมัครกว่า 800 ทีมทั่วประเทศ เป็นเยาวชนนักพัฒนาที่นำเอาหัวใจอาสาจากคนในสังคมมาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ น.ส.สุพรรณนิกา โชคไพบูลย์ หรือ มะปราง ในฐานะหัวหน้าโครงการ เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ในแต่ละปีมีคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กมากกว่า 3 หมื่นราย เท่ากับว่าทุกๆ 15 นาที จะเกิดเหตุ 1 คดี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและนักจิตวิทยาต้องตั้งข้อคำถาม เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่เป็นผู้โดนกระทำเล่ารายละเอียดข้อเท็จจริงเพื่อนำมาใช้ประกอบสำนวนคดี ซึ่งเด็กเหล่านั้นอาจไม่อธิบายหรือให้ข้อมูลอย่างสมบูรณ์ที่สุด เราจึงใช้ 'ตุ๊กตา' เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างเด็กและเจ้าหน้าที่ ส่วนความ 'วิเศษ' อยู่ที่ตุ๊กตามีอวัยวะเพศสำหรับชาย-หญิงเพื่อใช้ประกอบรูปคดี นอกจากนั้น นักจิตวิทยายังสามารถออกแบบการเยียวยาและ การฟื้นฟูสภาพจิตใจได้จากตุ๊กตาวิเศษอีกด้วย
แม้ระยะเวลาดำเนินโครงการเพียง 4 เดือน แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงประชาชนที่มีจิตอาสาแต่อย่างใด เพราะหากดูทางช่องทางการติดต่อ อย่างแฟนเพจเฟซบุ๊กจะเห็นได้ว่ามีจำนวน ผู้กดไลก์และติดตามเพจตุ๊กตาวิเศษ Kindness_Bravery_dolls กว่า 8,000 คน มีผู้สนใจติดต่อส่งอุปกรณ์มาร่วมบริจาคผ่านทางแชทมากมาย อีกทั้งยังเห็นประโยชน์จนอยากเรียกร้องให้ขยายที่ตั้งโครงการให้ครอบคลุมยังจังหวัดอื่น
แม้วันนี้ โครงการตุ๊กตาวิเศษจะยังไม่ได้ขยายโครงการไปตั้งในจังหวัดอื่น แต่ยังได้จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปภายในจังหวัดกว่า 10 ครั้ง เพื่อเปิดพื้นที่ให้จิตอาสาใกล้เคียงได้มาเย็บตุ๊กตาร่วมกัน และยังสร้างแพทเทิร์นการเย็บตุ๊กตาไว้สำหรับผู้มีจิตอาสาได้ดาวน์โหลดและส่งผลงานมาที่คณะสื่อสารมวลชน จนทำให้สามารถผลิตตุ๊กตาล็อตที่ 2 เพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ ได้ถึง 60 ตัว และจะผลักดันโครงการสู่สถานศึกษาที่สอนวิชาที่เกี่ยวข้องกับการคหกรรม หรือการฝึกอาชีพต่อไป
"เป็นรางวัลอันทรงเกียรติในชีวิต ภูมิใจที่ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต้องขอบคุณ สสส. ที่สนับสนุนโครงการดีๆ ต่อเยาวชน รู้สึกตื้นตันที่โครงการนี้เป็นจุดสำคัญที่รวมกลุ่มคนหัวใจอาสาจากทั้ง 4 ภาค เอาไว้ด้วยกัน การที่โครงการได้รับรางวัลเสมือนเป็น กระบอกเสียงที่แผ่ขยายไปยังสังคมในวงกว้าง ที่จะทำให้ประเด็นปัญหาได้รับความสนใจและถูกหยิบยกนำมาแก้ไข เพียงแค่ทุกคนมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน เช่นเดียวกับการรวมกำลังคนจิตอาสาที่ต่างสละเวลาว่างเพื่อมาเย็บตุ๊กตาให้คนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยยังเป็นสังคมที่เอื้ออาทรต่อกัน การตั้งใจทำความดีจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป" หัวหน้าโครงการตุ๊กตาวิเศษ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวแสดงความชื่นชมว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ สสส. ได้เป็นส่วนหนึ่งในการบ่มเพาะเยาวชนพลเมืองสร้างสรรค์เพื่อประเทศไทยน่าอยู่ เป็นปีที่ 3 หรือ Active Citizen ที่ร่วมขับเคลื่อนเยาวชนสู่การเป็นพลเมืองจิตอาสา ตื่นรู้ ที่เปิดโอกาสในการเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานได้จริงจากนอกห้องเรียน มีส่วนพัฒนาชีวิต ชุมชน และสังคม สสส. เชื่อมั่นว่าเยาวชนกว่า 800 โครงการได้ผ่าน กระบวนการเรียนรู้ด้วยหัวใจอาสา ที่จะนำไปสู่การต่อยอด การทำงานแก้ไขชุมชนในอนาคต จากพลังความร่วมมือ ขององค์กรภาคีทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
สำหรับโครงการตุ๊กตาวิเศษเป็นโครงการที่ระดมจิตอาสาเพื่อตัดเย็บตุ๊กตาจำลองอวัยวะมนุษย์เพื่อมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักจิตวิทยาใช้สืบถามข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายในคดีทารุณกรรมทางเพศ เป็นการหยิบยกปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กในสังคมมาใช้เป็นประเด็นปัญหาในการขบคิดโครงการ สู่การพัฒนาและต่อยอดผลงานอย่างยั่งยืน เป็นพลังความดีที่ส่งผ่านตุ๊กตา ช่วยเติมเต็มและเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กหลายๆ คน ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นการทำความดี ในแบบฉบับของตัวเอง เพราะเพียงแค่ทุกคน 'เริ่ม' ลงมือ ทำในสิ่งที่ถนัดและเกิดประโยชน์ เชื่อได้ว่าจะร่วมสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dodclub และสามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมของ Active Citizen ได้ที่ www.facebook.com/ThailandActiveCitizen