พระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์

ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า


พระราชาผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชน พระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ thaihealth


ภาพประกอบจากเว็บไซต์แนวหน้า


สำนักข่าวชั้นนำของโลก ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้ชาวโลกได้รับทราบ รอยเตอร์รายงานทรงเป็น“พ่อของแผ่นดิน” ขณะที่เอเอฟพี ระบุ“พระราชาผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย” BBC/CNNปักหลักสนามหลวง


สำนักข่าวรอยเตอร์สดึงสัญญาณการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เพื่อเผยแพร่พระราชพีธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ออกสู่สายตาชาวโลก โดยรายงานของรอยเตอร์สระบุด้วยว่า พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์พระองค์ที่9 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงเป็น “พ่อของแผ่นดิน” ด้วยทรงทุ่มเทพระวรกายในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่พสกนิกรชาวไทยตลอดรัชสมัย 70 ปีแห่งการครองราชย์


ขณะที่บรรยากาศในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเมืองหลวง และเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของเอเชียเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เช่นเดียวกับกิจกรรมแทบทุกอย่างในประเทศไทยที่สงบนิ่งตลอดทั้งวันที่ 26ตุลาคม ว่า เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นอกจากนี้ สถานที่ทุกแห่งทั้งใรส่วนของราชการและภาคเอกชนมีการประดับภรพบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ คู่กับดอกดาวเรือง ซึ่งถือเป็น “ดอกไม้ประจำพระองค์” เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. 2470 ที่มีสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของวันตามประเพณีโบราณ


รอยเตอร์รายงานพระราชพิธี


รอยเตอร์ระบุว่า ประชาชนจากทุกสารทิศทั่วประเทศแต่งกายชุดดำปูแผ่นพลาสติกนอนค้างคืนบนทางเท้า หวังได้ผ่านจุดคัดกรองเข้าไปชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พร้อมกับอ้างเจ้าหน้าที่ว่า มีประชาชนได้ใกล้พื้นที่ประกอบพระราชพิธีราว 110,000 คน ส่วนอีก 200,000 คน อยู่พื้นที่โดยรอบ


ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีและเอพีรายงานว่า ทางการไทยจัดพระราชพิธีอย่างสมพระเกียรติ ด้วยการถวายพระเกียรติยศสูงสุดในทุกขั้นตอน แด่ “พระราชาผู้เป็นที่รักยิ่ง” ของปวงชนชาวไทย ริ้วขบวนพระราชอิสริยยศทุกขบวนเป็นไปตามโบราณราชประเพณี และได้รับการประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามยิ่ง โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระดำเนินตามริ้วขบวน ตามด้วยคณะรัฐบาล ราชสกุล และข้าราชบริพาร ท่ามกลางประชาชนหลายแสนคนซึ่งอดทนรอนานกว่า 24 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับโอกาสเข้าไปจับจองพื้นที่ในบริเวณพระราชพิธีอย่างใกล้ชิด ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีขั้นสูงสุด แด่พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย


ซีเอ็นเอ็นสัมภาษณ์ประชาชน


ขณะที่’ซีเอ็นเอ็น’รายงานว่า พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพกษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลกเริ่มตั้งแต่คืนวันพุธ กว่าหนึ่งปีหลังจากเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ขณะมีพระชนมพรรษา 88 พรรษา พระองค์ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ซีเอ็นเอ็นลงภาพประชาชนจำนวนมากเต็มถนนราชดำเนิน ด้านหลังเห็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นอนค้างคืนตั้งแต่ก่อนวันพระราชพิธีรอเข้าไปยังจุดกรองเพื่อให้ได้ชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ อีกภาพเป็นภาพประชาชนนอนค้างคืนรอตั้งแต่คืนวันที่ 24 ตุลาคม หลายคนสวมเสื้อกันฝนเนื่องจากมีฝนตกหนัก


ซีเอ็นเอ็นสัมภาษณ์สตรีคนหนึ่งที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการพร้อมบุตรสาวฝาแฝดวัย 18 ปีว่า เดิมตั้งใจจะร่วมงานถวายดอกไม้จันทน์แถวบ้าน แต่ตัดสินใจว่าต้องมาให้ได้เพราะเป็นครั้งเดียวในชีวิตและหวังจะได้เข้าใกล้ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซีเอ็นเอ็นอ้างเจ้าหน้าที่คนหนึ่งว่า รัฐบาลประกาศให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในพระราชครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่วิจิตรและซาบซึ้งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย ห้างร้านทุกแห่งปิดทำการทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ 230,000 นายประจำการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ขณะที่สมาชิกราชวงศ์ ผู้นำและผู้แทนประเทศต่าง ๆ มาร่วมงานรวม 42 ประเทศ


ด้านเว็บไซต์บีบีซีลงคลิปข่าวนายรูเพิร์ต วิงฟิลด์-เฮยส์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีบรรยายจากบริเวณสนามหลวงว่า เมื่อวานนี้ ประชาชนชาวไทยทุกคนสวมชุดดำมาเฝ้ารอตั้งแต่เช้ามืดหวังได้ใกล้ชิดพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นวันสุดพิเศษอย่างยิ่ง ผู้คนหลายแสนคนเข้าแถวกันยาวเหยียดเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรหวังได้ชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ หลังจากตลอดปีที่ผ่านมานับตั้งแต่พระองค์เสด็จสวรรคตมีประชาชนเดินทางมาเข้ากราบพระบรมศพร่วม 12 ล้านคน


ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า ประชาชนที่มาเฝ้าในวันนี้แม้ไม่ได้เห็นพระราชพิธีจริงแต่ก็ตั้งใจมา ชายหญิงคู่หนึ่งกล่าวว่า แค่ได้เห็นริ้วขบวนก็มีความสุขแล้ว สตรีสูงอายุคนหนึ่งบอกว่าทุกวันนี้เห็นข่าวเกี่ยวกับพระองค์ก็ยังคงน้ำตาไหล ขณะที่ชายสูงอายุคนหนึ่งกล่าวว่า ต้องมาในฐานะพสกนิกรของพระองค์และลูกหลานของพระองค์


สโมสรฟุตบอลร่วมถวายความอาลัย


สโมสรฟุตบอลชั้นนำในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างร่วมถวายความอาลัย ในวันประวัติศาสตร์ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ผ่านทางเพจเฟซบุ๊คอย่างเป็นทางการของสโมสร โดยสโมสรลิเวอร์พูล ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 30 ล้านราย โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพระบุว่า “พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า สโมสรลิเวอร์พูล”


ด้านเพจ เชลซี ที่มียอดติดตามมากกว่า 46 ล้านราย โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงงาน พร้อมข้อความว่า “น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ #CFCThai” และ “เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจชั่วกาล ข้าพระพุทธเจ้า สโมสรฟุตบอลเชลซี”


ส่วน แมนฯ ซิตี ที่มียอดติดตาม 26 ล้านราย ลงคลิปวีดีโอบรรยากาศการวางดอกไม้จันทน์ของชาวไทยในเมืองแมนเชสเตอร์ พร้อมบรรยายว่า “เพื่อร่วมน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขอนำภาพบรรยากาศการวางดอกไม้จันทน์ของชาวไทยกว่า 400 คนในเมืองแมนเชสเตอร์ ณ วัดศรีรัตนาราม แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ มาเผยแพร่ให้ทุกคนได้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อ”พ่อ” …ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก เราก็รัก”พ่อ”สุดหัวใจ


เช่นเดียวกับ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ร่วมถวายอาลัยว่า “๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” และ “เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจชั่วกาล ร่วมถวายความอาลัย ข้าพระพุทธเจ้า สโมสรฟุตบอลทอตแนม ฮอทสเปอร์”

Shares:
QR Code :
QR Code