“พระบรมธาตุนครชุม” ต้นแบบวัดเพื่อชุมชน
ชวนชาวบ้านลด ละ เลิก อบายมุข
ณ วัดพระบรมธาตุพระอารามหลวง ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร หรือที่ชาวกำแพงเพชรเรียกว่า “พระบรมธาตุนครชุม” ที่นี่มีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับความความศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมธาตุนครชุม ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทำให้คนไทยอยากไปกราบสักการะขอบารมีองค์บรมธาตุเจดีย์ให้คุ้มครองและมีความสุขในชีวิต
การได้ไปสัมผัสพระบรมธาตุเจดีย์ที่งดงามเปล่งประกายสีเหลืองทองเมื่อถูกอาบด้วยแสงอาทิตย์ด้วยสายตาตนเอง ความศรัทธาในพุทธศาสนาเริ่มก่อเกิด และร่วมกราบนมัสการเพื่อขอพรอันถือเป็นสิริมงคลของชีวิตเช่นเดียวกับชาวบ้านนครชุมที่มาสักการะศาสนาสถานที่พวกเขาเคารพ พระอารามหลวงนอกจากจะเป็นศาสนาสถานสำคัญควรค่าแก่การไปเยือนแล้ว ก็ยังประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่
ในบริเวณวัดยังมีศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลนครชุม ถือเป็นแหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นทางด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมอันเป็นรากฐานของท้องถิ่น เพื่อให้ชาวนครชุมรู้จักตัวตนพร้อมๆ กับนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ครอบครัว ชุมชน และสังคม เรียกว่า เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยมิติวัฒนธรรม โดยนำคุณค่าทางวัฒนธรรม การมีคุณธรรมจริยธรรมตามหลักธรรมของศาสนา มีจิตสำนึกรักษ์และภาคภูมิใจในถิ่นกำเนิด มาพัฒนาและแก้ไขปัญหาในชุมชน
ภายในศูนย์แห่งนี้ถือเป็นห้องเรียนที่ให้ความรู้ต่างๆ ทั้งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ภูมิปัญญา ฯลฯ ผ่านการจัดแสดงเป็นนิทรรศการเล่าเรื่องพระบรมธาตุเจดีย์ ทำให้ผู้มาเยือนรับรู้ว่าเดิมพระมหาเจดีย์เป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีลักษณะศิลปะแบบสุโขทัย ต่อมามีเศรษฐีชาวพม่าเห็นว่าพระมหาเจดีย์ทรุดโทรม ด้วยแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงขออนุญาตบูรณะพระเจดีย์ โดยสร้างเจดีย์แบบพม่าครอบเจดีย์องค์เดิม อย่างที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้ พระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในสำเภาเงิน มีพระบรมธาตุอยู่ถึง 9 องค์ มีความเชื่อว่า ผู้ใดได้บูชาพระบรมธาตุ เหมือนกับได้กราบพระพุทธเจ้าด้วยตนเอง ทำให้ประชาชนพากันมาสักการบูชาพระบรมธาตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันมาฆบูชาและวันสงกรานต์
การจัดแสดงภาพถ่ายประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นลุ่มน้ำกำแพงเพชรเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ และในบริเวณโถงเดียวกันมีข้าวของเครื่องใช้โบราณมาจัดแสดงให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและจินตนาการย้อนกลับไปถึงการใช้ชีวิตของคนไทยในอดีต นี่เป็นความรู้ใหม่ๆ เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งจากการท่องเที่ยววัดแห่งนี้ วัดต้นแบบที่พัฒนาศักยภาพทุนทางสังคมที่มีรากฐานจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้มีความเข้มแข็งและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ที่สำคัญส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม
นี่ยังไม่ได้พูดถึงการที่วัดแห่งนี้เป็นหัวเรือใหญ่ในการเลิกดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ต่อต้านยาเสพติดทุกประเภท กระทั่งรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการขับเคลื่อนงานด้านนี้กับญาติโยม ลูกศิษย์ลูกหา ชุมชนและคนไทยทั่วประเทศ ถ้าเข้าสู่ในวัดพระบรมธาตุที่มีบรรยากาศเงียบสงบ นอกจากจะมีป้ายคำสอนและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตแล้ว รอบๆ วัดยังมีป้าย “วัดปลอดเหล้า” เตือนสติผู้ที่ได้มาเยือนสถานที่สำคัญแห่งนี้ว่า แต่ละวัน แต่ละเดือน เราได้ดำรงชีวิตอยู่บนความประมาทหรือไม่
เพราะในแต่ละปีมีคนไทยจำนวนมากที่ต้องเสียชีวิตลงสาเหตุจากการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่รวมผู้คนที่ต้องเจ็บป่วยด้วยโรคภัยจากพิษภัยน้ำเมา มหันตภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นที่ตระหนักดี ทำให้วัดพระบรมธาตุจัดกิจกรรมรณรงค์การงดดื่มเหล้า เชิญชวนชาวบ้านให้ลด ละ เลิก อบายมุขเหล่านี้ เพื่อตัวเองและเพื่อคนที่รัก
ถือเป็นพระอารามหลวงที่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นต้นแบบให้พระบางรูปและวัดบางแห่งที่ยึดติดกับถาวรวัตถุใหญ่โตมโหระทึกได้หันกลับมาให้ความสำคัญกับแก่นแท้ของคำว่า “วัด” อย่างแท้จริง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
Update 05-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์