พระนักพัฒนาเตรียมพร้อมรับ AEC

          มูลนิธิการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงถ่ายทอดความรู้เพื่อตั้งรับกับปัญหาที่จะมาจากการเปิดกลุ่มประเทศอาเซีย สร้างเครือข่ายพระนักพัฒนาไทยใหญ่


/data/content/24141/cms/e_ceghjnoqtx17.jpg


          ในชุมชนโบราณเมืองพยาก ห่างไกลความเจริญในพื้นที่จุดเชื่อมผ่านระหว่างเมืองท่าขี้เหล็ก เมืองยอง เมืองเชียงตุง คือบ้านและแหล่งทำกินของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทั้ง มูเซอ ลีซอ ม้ง อาข่า ไทยใหญ่ จีนยูนนานและไทลื้อ ที่อาศัยอยู่ทำมาหากันมาร่วมพันปี


          ปัจจัยสำคัญที่พวกเขายังขาดไปอย่างหนึ่ง คือ การศึกษา ร่วมถึงทักษะในการตั้งรับกับปัญหาที่จะมาจากการเปิดกลุ่มประเทศอาเซียในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า


         หลายพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์นี้ยังขาดความรู้ ทำให้ไปประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ขนยาเสพติด ไปขายบริการทางเพศหรือบางพื้นที่ก็มีการทำลายป่าไม้ เผาป่า เพื่อหวังใช้พื้นที่ทำการเกษตรโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนั้น ยังมีค่านิยมในการดื่มเมื่อมีงานบุญ งานประเพณีต่างๆ


/data/content/24141/cms/e_abdeguxy1368.jpg


         ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ วิทยาเขตเชียงใหม่ วัดสวนดอก เครือข่ายองค์กรศาสนาด้านเอดส์และเครือข่ายองค์กรงดเหล้าด้านศาสนาเพื่อการควบคุมปัจจัยเสี่ยง จึงได้มีแนวคิดในการไปหนุนเสริมให้พระสงฆ์เหล่านั้น ให้รู้เท่าทันและตั้งรับอย่างมีประสิทธิภาพ และนั่นถือเป็นจุดก่อกำเนิดของการเสริมสร้างเครือข่ายพระนักพัฒนาไทยใหญ่


        โดยเมื่อวันที่ 27-29 เมษายน พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา ณ วัดราชฐานหลวงน้ำล้อม เมืองพยาก นครเชียงตุง ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ มูลนิธิการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ วิทยาเขตเชียงใหม่ วัดสวนดอก พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรศาสนาด้านเอดส์และเครือข่ายองค์กรงดเหล้าด้านศาสนาเพื่อการควบคุมปัจจัยเสี่ยง ได้ร่วมจัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ไทใหญ่ขึ้น


/data/content/24141/cms/e_bcijmpru3469.jpg


         ในโครงการนี้ มีการมอบหมายให้พระสงฆ์ชาวไทยใหญ่ภายใต้ “ชมรมรวมพี่น้องไต” ที่มีความรู้ความสามารถซึ่งเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ วิทยาเขตเชียงใหม่ วัดสวนดอก ร่วมพัฒนาและ ดำเนินโครงการฯ  ทั้งนี้ เพราะต้องการให้ได้พระสงฆ์ดังกล่าวที่มีความรู้ เพียงพอในการที่จะไปถ่ายทอดความรู้ กระบวนการต่างๆยังกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง


        กว่า 4 วัน ที่มูลนิธิการศึกษาและเผยแผ่และเครือข่ายฯ ได้ลงพื้นที่จัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ไทใหญ่ภายใต้ชื่อ “โครงการอบรมพระธรรมวิทยากรเผยแผ่พระพุทธศาสนา และสอนหนังสือวัฒนธรรมท้องถิ่น ภาคฤดูร้อน” ถึงวันนี้ มีการรวมตัวพระสงฆ์เป็นเครือข่ายฯจำนวน 26 วัด โดยมีวัดสำคัญ คือ วัดหลวงเวียงเก่า และวัดราชฐานหลวงน้ำล้อม เมืองพยาก เป็นจุดประสานงานเครือข่ายฯ โดยมีพันธกิจสำคัญ คือ


-การเสริมสร้างเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาไทใหญ่


-การพัฒนากรอบงานด้านพัฒนาระหว่างพระสงฆ์ เยาวชนและชุมชน


-การลงพื้นที่ปฏิบัติการในพื้นที่นำร่องผ่านโครงการฯในประเด็นที่มีผลต่อชุมชนโดยประจักษ์


-การสื่อสารและระดมทุมเพื่อพัฒนายกระดับงานให้มีความยั่งยืน


/data/content/24141/cms/e_begkmnptuw26.jpg


         ดร.พระวิสิทธิ์ ฐิตวิสิทฺโธ จากมูลนิธิการศึกษาและเผยแผ่และเครือข่ายฯ มจร.วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า บทบาทการพัฒนาสังคมของพระสงฆ์ที่เรียกว่า“พระสงฆ์นักพัฒนา” นี้กระจายตัวกันทำงานอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อการรู้เท่าทันกระแสของทุนนิยมและวัฒนธรรมบริโภคเป็นเรื่องสำคัญ การรวมตัวของเครือข่ายพระนักพัฒนาไทยใหญ่ครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งจุดเชื่อมต่อของข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาในระดับนานาชาติในการทำงานด้านพัฒนาสังคมและส่งเสริมศีลธรรมในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง


         พระสามแสง เขมธมฺโม ประธานชมรมรวมพี่น้องไต ในฐานะประธานโครงการฯ กล่าวว่า  งานจัดประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นงานใหม่และงานแรกในการมาทำงานด้านพัฒนาเครือข่ายพระสงฆ์ในเมียนมาร์ ก่อนหน้านี้ ก็เน้นเรื่องเรียนและปฏิบัติเป็นหลัก การได้รับโอกาสมาทำงานในวัดและบ้านเกิดตนเอง จึงเป็นความรู้สึกพิเศษและดูเหมือนว่ากิจกรรมนี้จะเป็นห้องเรียนสำคัญในการเรียนรู้อย่างแท้จริง และหวังว่า ข่ายพระสงฆ์ไทใหญ่ที่รวมกันครั้งนี้จะได้รับการหนุนเสริมและมีพลังใสการพัฒนาตัวเครือข่ายฯเองกับชุมชนได้อย่างพึงพอใจ”


/data/content/24141/cms/e_ahilmpz25789.jpg


        ด้านนายประญัติ เกรัมย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าด้านศาสนา กล่าวว่า “งานพัฒนาพระสงฆ์เป็นจุดเริ่มต้นทีดีเพื่อทำให้คุณค่าทางพระศาสนามีความจำเป็นสังคม และเป็นจุดเรียนรู้สึกสำคัญสำหรับการเรียนรู้ข้ามพรมแดนอย่างมีนัยยะ ผมเห็นว่าการทำงานร่วมกับกลุ่มพระนักพัฒนาไทใหญ่ที่ได้ตื่นรู้และเท่าทัน รวมทั้งป้องกันและเฝ้าระวังนักปัญหาจากทุนนิยม บริโภคนิยม เช่น การเป็นนักดื่มหน้าใหม่ การติดยาเสพติด การค้าประเวณี ยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องมาร่วมกันเสริมสร้าง โดยเฉพาะกระบวนการคิด การเลือกประเด็น แผนปฏิบัติการและการมีส่วนร่วม ซึ่งจะเป็นความท้าทายการทำงานเครือข่ายเป็นอย่างมาก ”


        การเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายพระสงฆ์ในการทำงานด้านพัฒนาของกลุ่มพระสงฆ์ไทใหญ่ครั้งนี้ เป็นมิติสำคัญของการเชื่อมงานของพระนักพัฒนาลุ่มน้ำโขงทั้งเมียนมาร์ ไทย ลาวและกัมพูชา ซึ่งจะก่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มพระสงฆ์เองและรับใช้ชุมชนสังคมอย่างร่วมสมัย พร้อมกับการวางระบบเพื่อตั้งรับประเด็นปัญหาต่างๆ และการฉกฉวยโอกาสในการขยายเครือข่ายฯ ภายหลังการเปิดAECในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าที่สำคัญ


 


 


        ที่มา: นายประญัติ เกรัมย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าด้านศาสนา

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ