พบ 10 อันดับถนนมลพิษมากสุดในกทม.
แนะ ใช้ car free day
มูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทยผนึกกำลัง สสส.รณรงค์car free sunday หวังกระตุ้นจิตสำนึก ใส่ใจสุขภาพ ลดโลกร้อน
ข้อมูลจากสำนักจัดระบบการขนส่งทางบก ชี้เฉพาะรถส่วนบุคคลที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2534 จนถึง ธันวาคม 2551 พบว่า มีจำนวน 2,505,734 คัน หากรถ 1 คันวิ่งในระยะทาง 30 กิโลเมตรจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0.3 กิโลกรัม จะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 22,551,606 กิโลกรัมต่อวัน และหากอัตรารถยนต์หยุดวิ่งครึ่งหนึ่ง คาร์บอนไดออกไซด์จะลดลงได้มากถึง 11,275,803 กิโลกรัมต่อวัน ดังนั้นทางมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย จึงได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและภาคีเครือข่าย จัดโครงการ car free sunday ขึ้นเพื่อให้มวลชนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม และใช้ทางเลือกสำหรับคนรักโลก รักสุขภาพ อย่างการเดินหรือปั่นจักรยาน นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังห่างไกลจากโรคร้ายได้ถึง 7 โรค ได้แก่ โรคอ้วนเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันผิดปกติ โรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพาต และมะเร็งโดยร่วมกันหยุดใช้รถส่วนตัวทุกวันอาทิตย์ รวมไปถึงรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในวัน car free day คือวันที่ 22 กันยายนนี้ด้วย
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เวลา 08.00 น. ที่พาร์ค พารากอน นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ที่ทำการสำรวจคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ ปี2550 โดยการตรวจฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน พบว่าถนนในกรุงเทพฯ ที่มีรถติดและมีมลพิษมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1. ราชปรารภ2. สุขุมวิท 3. อาจณรงค์ 4. บำรุงเมือง 5. สาธุประดิษฐ์ 6. หลานหลวง7. เยาวราช 8. พิษณุโลก 9. สุขาภิบาล 1 และ 10. พระราม 1
ทั้งนี้ ในปี 2551 ประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นมูลค่าถึง555 ล้านบาท/วัน หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท / ปี ในจำนวนดังกล่าวนี้ มีน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมูลค่าถึงวันละ 73.4 ล้านบาท หรือปีละ 26,791 ล้านบาท ต้องสูญเสียไปจากปัญหาการจราจร หากรถครึ่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร วิ่งเฉลี่ยในระยะทาง 30 กิโลเมตร จะใช้น้ำมันไป28,189,507.5 ลิตร คิดเป็นจำนวนเงินแยกตามชนิดน้ำมัน น้ำมันเบนซิล91 = 1,007,492,998.05 บาท (เปรียบเทียบในราคาลิตรละ 35.74 บาท)น้ำมันดีเซล 780,567,462.675 บาท (เปรียบเทียบในราคาลิตรละ 27.69 บาท) ที่มา : ศูนย์ประสานงานโครงการปฏิบัติการ 2 energy fantasia
“ปัจจุบันนี้กิจวัตรในชีวิตประจำวันของเราล้วนแต่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนไดไซด์สู่ชั้นบรรยากาศทั้งสิ้น ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นฐานการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์มากที่สุดในประเทศ โดยมาจาก 3 กิจกรรมหลัก คือ 1. ภาคอุตสาหกรรม ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปีละ33,790,000 ตัน 2. การใช้ไฟฟ้า มากถึง 36% ของประเทศ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปีละ 20,922,768 ตัน และ 3. การขนส่ง มากถึง40% ของประเทศ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปีละ 17,300,480 ตัน จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันตระถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในวัน car free sunday”
ด้าน ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า มูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ต้องการให้เกิดการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน และต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินโครงการ car free sunday : หยุดใช้รถเพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก เนื่องในวัน car free day โดยได้ระดมความร่วมมือจากองค์กรภาคี และหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร,มูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดิน – วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย , บีทีเอส, รฟม., bmcl, ขสมก., ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย , ชมรมจักรยานเพื่อคุณภาพชีวิต, สปอร์ตมอลล์, ศูนย์การค้าสยามพารากอน, สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7, บริษัท สปีดวัน อาร์ทิสแมนเนจเม้นท์ จำกัด, บริษัท อาร์ เอส จำกัด (มหาชน), บริษัท อินสไพร์เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ซึ่งล้วนแต่ตระหนักถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับสุขภาพของคนในสังคม และสุขภาพของโลก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดการใช้การเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชน ลดการใช้พลังงาน อีกทั้งกระตุ้นให้คนหันมาใช้จักรยาน หรือการเดินในระยะทางใกล้ๆ ที่จะเกิดประโยชน์ด้านสุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญยังมุ่งหวังในการกระตุ้นภาครัฐให้ผลักดันในส่วนของนโยบายที่จะทำให้เกิดการดำเนินการเรื่องของระบบขนส่งมวลชน หรือการอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ประชาชนหันมาใช้การเดินทางแบบไม่ทำลายสิ่งแวดแวดล้อมโดยไม่คุ้มค่ากันมากขึ้น และยังส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิต ทั้งการลดรายจ่ายในครัวเรือน การมีสุขภาพที่ดี รวมถึงลดผลกระทบอื่นๆ ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากการเดินทางด้วยรถที่ใช้เครื่องยนต์
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นจิตสำนึก เพื่อให้มวลชนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งต้องการกระตุ้นจิตสำนึกในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยรูปแบบที่สามารถ กระทำได้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในวัน car free day คือวันที่ 22 กันยายน และส่งผลต่อเนื่องในการผลักดันให้งดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในวันอาทิตย์ต่อไป ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราสามารถช่วยลดโลกร้อนได้
ด้าน ศ. ดร. ธงชัย พรรณสวัสดิ์กรรมการบริหารแผน คณะที่ 5 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจะช่วยทำให้เกิดประโยชน์ทางด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการใช้จักรยานเป็นพาหนะเดินทางในชีวิตประจำวัน เช่น ใช้เป็นพาหนะเดินทางไป – มาในละแวกบ้าน ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 16 – 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทางจากที่พักไปถึงที่ทำงานประมาณ 10 กิโลเมตร ทำให้ผู้ใช้จักรยานได้ออกกำลังกายถึงวันละ 60 นาที และสามารถเผาผลาญพลังงานได้ อย่างน้อย 576 กิโลแคลอรี่ต่อการเดินทางไปทำงาน 10 กิโลเมตรต่อวัน และ1,152 กิโลแคลอรี่ต่อการเดินทางไปทำงาน 20 กิโลเมตรต่อวัน ซึ่งหากปฏิบัติเช่นนี้ได้ทุกวันจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว นอกจากนั้นการใช้จักรยานเพื่อกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นประจำยังสามารถลดอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอื่นๆ อันเนื่องจากไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลจากการศึกษาของนักวิจัยในประเทศเดนมาร์กจากกลุ่มประชากรกว่า 30,000 คน โดยใช้ระยะเวลาการศึกษามากกว่า 14 ปี พบว่า ด้วยปัจจัยอื่นๆที่เหมือนกัน กลุ่มผู้ใช้จักรยานเพื่อไปทำงานจะมีอัตราความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคเรื้อรังน้อยกว่าคนธรรมดาถึง 40% และจากผลการศึกษาที่นำเสนอโดยโดยสมาคมทางการแพทย์ของประเทศอังกฤษ (british medical association) พบว่าอัตราความเสี่ยงกับการเป็นโรคอันเนื่องมาจากไม่ได้ออกกำลังกาย เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน นั้นมีมากกว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้จักรยานถึง 20 เท่า
สำหรับโครงการ car free day เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อต้นค.ศ.1970 ในช่วงวิกฤติน้ำมันและได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในเมืองต่างๆ ทั่วโลกสำหรับประเทศไทยโครงการ car free day จัดเป็นครั้งแรกในปี 2543 ซึ่งในปีนั้นถือว่าประสบความสำเร็จมากพอสมควร ทุกคนที่เข้าร่วมโครงการนั้นจะไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว และในปีค.ศ.2000 นิตยสาร car busters ผู้ริเริ่มเครือข่ายปลอดรถโลก และกำหนดให้วันที่ 22 กันยายน หรือวันใกล้เคียงเป็นวัน car free day
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
update: 18-09-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย